ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563

28 กันยายน 2563, 13:46น.


ผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 22 คน มาจากซูดานใต้มากที่สุด 16 คน



          นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 28 ก.ย.



1.ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22 คน ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 3,545 คน แบ่งเป็น คนที่เดินทางมาจากซูดานใต้ 16 คน อินเดีย 4 คน ปากีสถาน 1 คน ฟิลิปปินส์ 1 คน  





2.หายป่วยเพิ่ม 2 คน ทำให้มีผู้ป่วยหายกลับบ้าน 3,369 คน



3.พักรักษาตัวในโรงพยาบาล 117 คน



4.เสียชีวิตคงที่ 59 ราย



          นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค. มีมติต่ออายุพระราชกำหนดการบริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน(พ.ร.ก.)ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน ครอบคลุมตลอดเดือน ต.ค. ถือว่าเป็นรอบที่ 6 แล้ว เพื่อคุมสถานการณ์จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นับตั้งแต่มีการประกาศใช้ครั้งแรก เมื่อ 26 มี.ค.2563



ผู้ว่าฯธปท.เร่งปฎิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ หลังวิกฤตโควิด-19




          ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยในงานสัมมนาวิชาการประจำปีของธปท.หัวข้อปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไทย ทำอย่างไรให้เกิดขึ้นได้จริงว่า โลกหลังโควิด-19 จะเปลี่ยนไปเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างต้องเร่งปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ แม้ที่ผ่านมาได้พูดคุยกันต่อเนื่องแต่ยังไม่เกิดผลจริง ซึ่งการให้เกิดขึ้นจริงจะสอดคล้อง 3 ด้าน ได้แก่



-ด้านแรกคนไทยต้องแข่งขันกับต่างประเทศ



-ด้านสองคนไทยและธุรกิจไทยต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดีและรับมือกับสถานการณ์โลกใหม่ที่ผันผวนได้



-ด้านสามกระจายผลประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจจะต้องทั่วถึงและไม่เป็นปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย



           นอกจากนั้น ยังต้องเพิ่มความสำคัญทั้งมหภาคและจุลภาค เพิ่มผลิตภาพการแข่งขัน ทั้งในภาคเกษตรและนอกเกษตรให้เข้าถึงเทคโนโลยี เพิ่มทักษะแรงงาน ยอมรับโควิด-19 ทำให้มีกำลังการผลิตส่วนเกินต่อเนื่องไปอีกหลายปี หากไม่ถูกจัดการไปสู่ภาคการผลิตอื่น จะขาดภูมิคุ้มกัน ทำให้ไม่มีทางเลือกต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้เกิดขึ้นจริงเศรษฐกิจไทย



           ส่วนบทบาทภาครัฐต้องเร่งสร้างกลไก ส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม เปิดเสรีให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้าสู่ตลาดแข่งขันกับผู้ประกอบการรายเดิม แก้กฎเกณฑ์ล้าสมัย และภาครัฐควรสนับสนุนให้แรงงาน ผู้ประกอบการ เกิดการปรับตัวรับการแข่งขันที่สูงขึ้น ยอมรับ การปฎิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจไม่ง่าย แต่เป็นเรื่องจำเป็นต้องทำทันที ซึ่งการเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะสั้นต้องสอดคล้องกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อเกิดความยั่งยืนระยะยาว ขณะที่ภาครัฐควรลดมาตรการเหวี่ยงแห เน้นช่วยเหลือให้ตรงจุดกับคนที่ต้องการช่วยเหลือ รวมทั้งแรงงานและผู้ประกอบการมีความสามารถแตกต่างกัน



เตรียมเรียกพี่เลี้ยงที่ทำร้ายเด็กอนุบาลมารับทราบข้อกล่าวหา



          พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดี น.ส. อรอุมา ปลอดโปร่ง พี่เลี้ยงโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ ราชพฤกษ์ ทำร้ายร่างกายเด็กอนุบาลหลายคนว่าได้รับรายงานจาก สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี ว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเดือนก.ย. มีเด็กอนุบาลประมาณ 5 คน ขณะเรียนอยู่ในห้องเรียน ถูกครูคนดังกล่าวใช้มือดึงใบหูและใช้มือทุบทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ ผู้ปกครองของเด็กจึงได้รวมตัวกันมาเเจ้งความ พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์จากผู้ปกครองไว้ดำเนินคดีกับครูพี่เลี้ยงดังกล่าวเเล้ว เบื้องต้น สอบปากคำผู้ปกครองไปแล้ว 8 ปาก พร้อมตัวเด็กอนุบาลทั้ง 8 คน ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังกว่า 10 วัน อยู่ระหว่างทำการตรวจสอบเพิ่มเติมทั้งระดับชั้น เพื่อขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป   



          รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คดีดังกล่าวพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้มารับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมาย โดยจะมีการประสานพัฒนาสังคมจังหวัดเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กที่ได้รับผลกระทบ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันประชุมหารือ วางแผนแก้ไขในเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม หากภายหลังตรวจสอบพบว่ามีการกระทำความผิด หรือเด็กถูกทำร้ายเพิ่มเติมอีก เจ้าหน้าที่ตำรวจก็พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย 



ลดอุบัติเหตุ ทล.304! ติดป้ายง่วงจอดพัก เร่งสรุปผลอุบัติเหตุรถบัสชนกับรถพ่วง



          นายสุจิณ มั่งนิมิตร ที่ปรึกษาศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ผลจากการลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีเกิดอุบัติเหตุรถโดยสารชนรถพ่วงบริเวณแยกตัดใหม่ไชยมงคล ทล. 304 เส้นทางนครราชสีมา-กบินทร์บุรี ต.ไชยมงคล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อวันที่ 26 ก.ย.63 พบว่ารถโดยสารคันนี้กำลังนำผู้โดยสารที่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) เป็นคณะทัวร์ จาก ต.น้ำใส อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด มุ่งหน้าท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งรถทัวร์ดังกล่าวมีรถโดยสาร 4 คัน ซึ่ง 3 คันออกเดินทางไปก่อนช่วงเวลา 21.00 น. เมื่อวันที่ 25 ก.ย.63



          ส่วนคันที่ 4 หรือคันที่เกิดอุบัติเหตุรถออกเวลา 22.00 น. ช้ากว่าอีก 3 คัน ไป 1 ชม. คาดว่าน่าจะเป็นคันเก็บตกผู้ที่จะเดินทางร่วมทัวร์ครั้งนี้ ทำให้ออกรถช้ากว่า 3 คัน เมื่อออกรถช้ากว่าต้องเร่งเดินทางเพื่อให้ทันอีก 3 คันที่เดินทางไปก่อนหน้านี้ ซึ่งจากร้อยเอ็ดมาจนถึงจุดเกิดเหตุใช้เวลาเดินทาง 5 ชม.ตามกฎหมายแล้วเมื่อเดินทางครบ 4 ชั่วโมง ต้องจอดพัก 30 นาที เพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าและลดความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ ขณะเดียวกันช่วงที่เดินทางผู้โดยสารได้แจ้งให้พนักงานขับรถหยุดพักก่อนเดินทางต่อแล้ว เพราะช่วงนั้นผู้โดยสารรู้สึกได้ว่าพนักงานขับรถส่ายตลอดเวลา น่าจะมีอาการหลับใน แต่พนักงานขับรถไม่เชื่อฟังและได้ฝืนขับต่อจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว



          นายสุจิณ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้โดยสาร ระบุว่า พนักงานขับรถหรือพนักงานที่ดูแลไม่ได้แจ้งให้ผู้โดยสารทราบว่าต้องคาดเข็มนิรภัยทุกที่นั่งก่อนออกเดินทาง ทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่นั่งมีความเสียหายมาก และเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรง ดังนั้นต้องเข้มงวดผู้ประกอบการมากขึ้น นอกจากนี้พบว่ารถคันดังกล่าวมีพนักงานขับรถ 2 คนไว้เปลี่ยนกันขับ แต่ทั้ง 2 คนนี้ได้เดินทางมาจากต้นทางที่ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมกัน ซึ่งในต่างประเทศถ้าเดินทางเกิน 400 กม. ต้องมีพนักงานขับรถ 2 คน เพื่อเปลี่ยนกันขับ พนักงานคนแรกต้องขับจากต้นทางจนถึงกลางทาง จากนั้นพนักงานคนที่ 2 ขับต่อจากกลางทางจนถึงปลายทาง พนักงานขับรถคนที่ 2 ต้องรออยู่ในพื้นที่จังหวัดกลางทางไม่ใช่นั่งรถมาด้วยกันตั้งแต่ต้นทาง เพราะระหว่างที่พนักงานคนแรกขับพนักงานขับรถคนที่ 2 คุยเป็นเพื่อนตลอดทาง ทำให้พนักงานคนที่ 2 ไม่ได้พัก เมื่อยล้า และประสิทธิภาพการขับรถลดลงได้ ดังนั้นการใช้พนักงานขับรถ 2 คน ควรแบ่งทำงานคือคนแรกควรขับจากร้อยเอ็ดมาถึงนครราชสีมา ส่วนคนที่ 2 ควรรออยู่ที่ จ.นครราชสีมา แล้วขับต่อจนถึงพัทยา ซึ่งเป็นหลักการที่ถูกต้องตามมาตรฐานที่ต่างประเทศปฏิบัติกัน แต่ในไทยยังไม่ได้ปฏิบัติแบบนี้ อนาคตอาจนำมาตรการให้พนักงานขับรถคนที่ 2 ต้องรออยู่ในพื้นที่ตามแนวเส้นทางที่จะเปลี่ยนกันขับ แทนที่จะนั่งรถมาพร้อมกันตั้งแต่ต้นทาง ลดความเสี่ยง



          ส่วนด้านกายภาพทางถนนได้สั่งให้แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 3 ติดตั้งป้ายง่วงจอดพัก ตามแนว ทล. 304 ช่วงปักธงชัย-กบินทร์บุรี เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันปัญหาหลับในแล้ว



          นายสุจิณ กล่าวว่า วันนี้จะสรุปผลรายงานจากการลงพื้นที่เพื่อเสนอให้ผู้บริหารกระทรวงคมนาคมทราบ และหาแนวทางป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน ต้องการให้ระมัดระวังในเส้นทางที่มีความเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุทั่วประเทศ 6 จุด ได้แก่



1.ดอยนางแก้ว พื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด ทล.118 สายเชียงใหม่-เชียงราย



2.ดอยรวก อ.เมือง จ.ตาก ทล.12 สายตาก-แม่สอด



3.ดอยคา อ.แม่สอด ทล.12 สายตาก-แม่สอด



4.เขาพลึง จ.อุตรดิตถ์ ทล.11 บึงหลัก-หนองน้ำเขียว (เขาพลึง)



5.เขาโทน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ทล. 304 วังน้ำเขียว-กบินทร์บุรี



6.เขาช่องตะโก อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ทล.348 อรัญประเทศ-นางรอง



          ทั้ง 6 จุดนี้เป็นเส้นทางลงเขาระยะทางเกิน 7 กิโลเมตร ส่วนใหญ่รถโดยสารและรถบรรทุกมักมีปัญหาเรื่องเบรกแตกจนเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ควรปฏิบัติตามป้ายเครื่องหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เช่น ใช้เกียร์ต่ำ เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะพนักงานขับรถที่ไม่มีความคุ้นชินเส้นทาง รวมทั้งตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมก่อนเดินทาง พนักงานขับรถพักผ่อนเพียงพอขับ 4 ชั่วโมง พัก 30 นาที



องผบก.ตำรวจนครบาล 4 เร่งสอบคดีชิงทองให้เร็วที่สุด



          พ.ต.อ.ชัยรพ จุณณวัตต์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีชิงทอง ในห้างโลตัส วังหิน เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนเร่งคดีให้เร็วที่สุดและอยู่ในขั้นตอนของการเรียกประชุมภายในเพื่อที่จะพูดคุยถึงพยานหลักฐานที่ได้มา ทั้งจากกล้องวงจรปิดและรถจักรยานยนต์ของผู้ก่อเหตุ  เนื่องจาก พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ลงพื้นที่และกำชับให้ติดตามคดี ให้รายงานทันทีหากพบหลักฐานเพิ่มเติมหรือพบสิ่งต้องสงสัยเพิ่มเติมในจุดเกิดเหตุ



         สำหรับหลักฐานตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบจะมาจากกล้องวงจรปิดที่เปิดเผยถึงรูปร่างของคนร้ายที่เป็นชายที่มีลักษณะผิวคล้ำ ผมประบ่า คาดว่าน่าจะใส่วิก ใส่หมวกกันน็อคและใส่หน้ากากปิดบังใบหน้า ได้ปีนเข้ามาภายในร้านทอง จากนั้นได้ใช้ปืนลูกโม่ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นของจริงหรือปลอม ข่มขู่พนักงานขายทองในร้าน และกวาดทองภายในร้านไปได้ถึงจำนวน 200 บาท แล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีออกไปทางหลังห้าง ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ใช้ในการก่อเหตุ จอดทิ้งไว้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในย่านลาดพร้าว เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเพิ่มเติมจนพบว่า คนร้ายวางแผนอย่างดี ทั้งการเปลี่ยนสีรถและใช้สเปรย์พ่นทับเลขตัวถัง เจ้าหน้าที่ได้ประสานกับกองพิสูจน์หลักฐานร่วมกันตรวจสอบเก็บลายนิ้วมือแฝงและได้นำรถของคนร้ายกลับไปตรวจสอบเพื่อสืบหาหลักฐานเพิ่มเติมในการจับกุมคนร้ายต่อไป




 

ข่าวทั้งหมด

X