นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.รายงานสถานการณ์ประจำวันที่ 28 ก.ย.
1.ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22 คน ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 3,545 คน แบ่งเป็น คนที่เดินทางมาจากซูดานใต้ 16 คน อินเดีย 4 คน ปากีสถาน 1 คน ฟิลิปปินส์ 1 คน รายละเอียดเป็นดังนี้
-ปากีสถาน 1 คน เป็นนักเรียนชายไทย อายุ 13 ปี เดินทางมากับครอบครัวถึงไทยเมื่อวันที่13 ก.ย. (เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 2 คน) เข้าพักใน State Quarantine ในจังหวัดชลบุรีและตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ในวันที่ 26 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี
-ซูดานใต้ 16 คน ทุกคนเป็นเพศชาย สัญชาติไทย อายุระหว่าง 27-54 ปี อาชีพรับราชการทหาร (ทหารช่างเฉพาะกิจ ไปปฏิบัติภารกิจทางทหาร) เดินทางถึงประเทศไทยโดยเครื่องบินเช่าเหมาลำ เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 63 เข้าพัก State Quarantineในจังหวัดชลบุรีและตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ในวันที่ 26ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กทม.
-ฟิลิปปินส์ 1 คน เป็นชายไทย อายุ 24ปี อาชีพรับราชการทหาร (ไปศึกษาวิชาทหาร) เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 23 ก.ย.เข้าพัก State Quarantine ในจังหวัดชลบุรีและตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ในวันที่ 26ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแหลมฉบัง จ.ชลบุรี
-อินเดีย 4 คน โดย 3 คนแรก เป็นมารดาและลูกสาว สัญชาติอินเดีย อายุ 35 ปี และ 7 ปี และเป็นชาย สัญชาติอินเดีย อายุ 38 ปี เป็นกรรมการบริษัท มีใบอนุญาตทำงาน เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่23ก.ย.เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) ในกทม. และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ในวันที่ 26ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกทม.
-อีกคนเป็นชาย สัญชาติอินเดีย อายุ 30 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 25ก.ย. เข้าพัก Alternative State Q. (ASQ) ในกทม. และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ในวันที่ 25ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในกทม.
2.หายป่วยเพิ่ม 2 คน ทำให้มีผู้ป่วยหายกลับบ้าน 3,369 คน
3.พักรักษาตัวในโรงพยาบาล 117 คน
4.เสียชีวิตคงที่ 59 ราย
นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค. มีมติต่ออายุพระราชกำหนดการบริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน(พ.ร.ก.)ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน ครอบคลุมตลอดเดือน ต.ค. ถือว่าเป็นรอบที่ 6 แล้ว เพื่อคุมสถานการณ์จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นับตั้งแต่มีการประกาศใช้ครั้งแรก เมื่อ 26 มี.ค.2563