ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันจันทร์ที่ 28 กันยายน 2563

เก็บหลักฐาน! พบรถจยย.โจรชิงทองโลตัส วังหิน ตร.เผย มืออาชีพ-ไม่ทิ้งร่องรอย

          การแกะรอยติดตามจับคนร้ายสวมวิกผมยาว ใช้อาวุธปืน จี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาห้างโลตัส วังหิน ก่อนกวาดทองน้ำหนักไปกว่า 200 บาท รวมมูลค่ากว่า 6,000,000 บาท ก่อนขับรถจักรยานยนต์ หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อหาเส้นทางที่คนร้ายเดินทางมาก่อเหตุและเส้นทางการหลบหนี จนทราบข้อมูลว่า คนร้ายไปถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างถึง 2 ครั้ง ว่าห้างเปิดประมาณกี่โมงก่อนจะลงมือก่อเหตุ ส่วนเส้นทางการหลบหนี คนร้ายได้หลบหนีไปตามทางถนนเลียบคลองลาดพร้าว ก่อนที่จะถอดเสื้อคลุมทิ้ง จากนั้นก็ขับรถจักรยานยนต์ไปจอดทิ้งไว้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยเสนานิคม 1 แล้วได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ถอดวิกผม และรองเท้า ก่อนเรียกรถแท็กซี่ ให้ไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว

          ตำรวจชุดสืบสวนประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน มาเก็บหลักฐานลายนิ้วมือที่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ทีทีเอ็กซ์ สีดำ-เทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ รวมทั้งเก็บเสื้อผ้า วิกผม และ รองเท้าของคนร้ายไปตรวจสอบเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม คนร้ายมีความชำนาญในการพรางตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการเตรียมการก่อเหตุมาเป็นอย่างดี เพราะมีการพ่นสีทับเลขตัวถังเครื่องยนต์และไม่พบร่องรอยลายนิ้วมือของคนร้ายบนรถจักรยานยนต์

          เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในช่วงก่อเหตุ คนร้ายพูดว่าอย่าเข้ามาเลย สำเนียงเป็นคนภาคกลาง ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบวิ่งออกมาแจ้งขอความช่วยเหลือ

ศธ.นัดคุย ร.ร.สารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์-ผู้ปกครอง เอาผิดพี่เลี้ยงเด็ก ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู

          วันนี้มีความคืบหน้าหลายเรื่องการดำเนินคดีน.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง พี่เลี้ยงประจำชั้นอนุบาล 1 ทำร้ายเด็กอนุบาลโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

-เช้านี้ 9.00 น. นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นัดหมายทุกฝ่ายทั้งโรงเรียน พ่อแม่เด็ก เพื่อมาพูดคุยยุติเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด นางกนกวรรณ ยืนยันจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโดยเร็ว เพื่อดูว่าทางโรงเรียนมีกระบวนการรับครูเข้าทำงานอย่างไร ที่ผ่านมาโรงเรียนไม่เคยมีการประชุมผู้ปกครองจึงต้องดำเนินการให้ดีกว่านี้ ส่วนเรื่องอาหาร ผู้ปกครองแจ้งว่า อาหารไม่เป็นตามที่แจ้งและไม่ถูกสุขลักษณะ ก็จะต้องไปตรวจสอบ เบื้องต้นจะประสานนักจิตวิทยามาดูแลเด็กและประจำที่โรงเรียน

-ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) นนทบุรี จะตรวจสอบเรื่องใบประกอบวิชาชีพครู ถ้าไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แม้จะทำหน้าที่เป็นเพียงครูพี่เลี้ยง แต่หากมาทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ก็จะดำเนินคดีด้วยการแจ้งไปที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา รายงานระบุว่า น.ส.อรอุมา ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 

-เช่นเดียวกับ นายดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ครูจะต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูจะมาแอบอ้างสอนเด็กนักเรียนไม่ได้ ขณะเดียวกันจะต้องให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) ช่วยตรวจสอบโรงเรียนด้วยว่าเหตุใดจึงจ้างคนที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเข้ามาสอน หากไม่มีการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ คงต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเช่นกัน

-ขณะที่ นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กล่าวว่า กรณีนี้ผู้ที่ก่อเหตุสำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 และไม่มีใบประกอบวิชาชีพครู สามารถสมัครเป็นครูพี่เลี้ยงได้ เพราะครูพี่เลี้ยงก็เท่ากับพี่เลี้ยงเด็ก แต่โรงเรียนต้องคัดกรองและดูพฤติกรรมก่อนรับทำงาน เพราะหน้าที่ของครูพี่เลี้ยง คือช่วยเหลือครู ไม่สามารถทำเกินหน้าที่ได้ หากพี่เลี้ยงทำเกินหน้าที่ โรงเรียนต้องรับผิดชอบด้วย เพราะครูเป็นวิชาชีพควบคุม

เตรียมเอาผิดครูอีก 2 คนที่ไม่ห้าม และครูชาวฟิลิปปินส์ อีกคนที่ทำร้ายเด็ก

-นอกจากนี้จะดำเนินการตรวจสอบและลงโทษครูอีก 2 คน ที่อยู่ในคลิปวิดีโอที่เห็นเหตุการณ์แต่กลับนิ่งเฉยไม่เข้าไปช่วยเหลือเด็กนักเรียนเพราะถือว่ามีความผิดร่วมด้วย

-ด้านผู้ปกครองเด็กอีกราย พบว่าลูกที่อยู่ชั้นอนุบาลถูกทำร้ายร่างกายเหมือนกัน ระบุว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่ามีครูอีกคนเป็นชายชาวต่างชาติ สัญชาติฟิลิปปินส์ สอนภาษาอังกฤษ ทำร้ายร่างกายลูกตนเองด้วย เตรียมนำคลิปเหตุการณ์เข้าแจ้งความเอาผิดกับครูสอนภาษาอังกฤษชาวฟิลิปปินส์รายนี้ด้วย

-นางประกายรัตน์ ต้นธีรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทำหน้าที่แทนประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เสนอให้มีการฝึกอบรมทักษะครูในโรงเรียนปฐมวัยในวิชาจิตวิทยาการศึกษาและจิตวิทยาพัฒนาการอย่างเข้มข้น และมีการประเมินเป็นระยะ

ขีดเส้น 7 วัน ต้องมอบตัว ! ชายวัย 45 ปีชักปืนขู่ในร้านสะดวกซื้อ อ.นาน้อย จ.น่าน

          พนักงานร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันสาขานาน้อย อ.นาน้อย จ.น่าน แจ้งเจ้าหน้าที่สายตรวจประจำร้านสะดวกซื้อว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย. เวลา 23.05 น. มีชายไม่ทราบชื่อ ลักษณะคล้ายคนเมา มากัน 2 คน เข้ามาซื้อสินค้าภายในร้านแต่ไม่สวมหน้ากากอนามัย พนักงานขายได้แนะนำลูกค้าถึงกฎระเบียบหากไม่สวมหน้ากากอนามัย ขออนุญาตห้ามเข้ามาเลือกซื้อสินค้า ซึ่ง 1 คน ปฏิบัติตามไม่เข้ามา แต่ชายอีก 1 คน ไม่สนใจเข้ามาเดินเลือกซื้อของพร้อมโวยวายไม่พอใจก่อนเดินกลับออกไปและกลับมาอีกครั้งพร้อมชักปืนขู่

          หลังจากตรวจสอบกล้องวงจรปิดและติดตามทราบชื่อภายหลังว่า นายเศรษฐพล อายุ 45 ปี ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.นาน้อย ได้ส่งหมายเรียกนายเศรษฐพล ให้เข้ามอบตัวตามความผิดจากหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด ภายใน 7 วัน ในข้อหาพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร และตรวจสอบอาวุธปืนดังกล่าวว่ามีใบอนุญาตหรือไม่ หากอาวุธปืนไม่มีใบอนุญาตจะเพิ่มข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หากเข้ามามอบตัวตำรวจจะดำเนินคดีตามกฎหมาย