ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันศุกร์ที่ 25 กันยายน 2563

25 กันยายน 2563, 08:40น.



อธิบดีกรมสรรพากร ชี้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 เหมือนเครื่องบินที่โหม่งลงทะเล



          เวทีงานสัมมนา “Bettle Strategy แผนฝ่าวิกฤต พิชิตสงคราม” เกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจไทย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร พูดถึงเรื่องความท้าทายเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจโลก หลังยุควิกฤตโควิด-19 ว่า ระบบเศรษฐกิจไทยมีความผันผวนมากขึ้นเพราะพึ่งพาเศรษฐกิจจากต่างประเทศสูงทำให้ช่วงไตรมาส 2 เศรษฐกิจไทยเป็นเหมือนเครื่องบินที่โหม่งลงทะเล เพราะเครื่องยนต์ใหญ่ 2 ตัวของไทย ทั้งการส่งออก และการบริโภคภาคเอกชน ติดลบหมด ขณะที่ความท้าทายของเศรษฐกิจโลกในอนาคต คือ บทบาทเอเชียจะเพิ่มขึ้นในเศรษฐกิจโลก แต่ก็มีการกีดกันทางการค้าเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจโลกเชื่อมโยงกันมากขึ้น แต่ก็ซับซ้อนมากขึ้น



รมว.พลังงาน คาดเศรษฐกิจไทยใช้เวลา 2 ปี ฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด



          นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยจะใช้เวลา 2 ปี ในการฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19  ซึ่งเร็วกว่าตอนวิกฤตต้มยำกุ้งที่ใช้เวลา 5 ปี โดยเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวเป็นรูปเครื่องหมายไนกี้หางยาว พร้อมย้ำว่า เม็ดเงินเกือบ 900,000 ล้านบาทที่รัฐบาลใช้ในการเยียวยาและฟื้นฟู ถือว่าเป็นการยิงเข้าเป้า แต่ยังหยุดไม่ได้ เพราะยังมีผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยวและบริการ ที่จะทำให้มีการว่างงานแน่นอน ซึ่งวันที่ 26-28 ก.ย. รัฐบาลจะจัดงานตลาดแรงงาน ที่มีตำแหน่งงานรองรับกว่า 1,000,000 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย เช่น มาตรการเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง วงเงินรวมกว่า 51,000 ล้านบาท ในช่วง 3 เดือน คือ ต.ค- ธ.ค. หากประชาชนร่วมมือกัน จะทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบประมาณ 100,000 ล้านบาท 



พิษโควิด-19 กระทบกำลังซื้อ ฉุดตลาดขนมไหว้พระจันทร์ทรุด 15.8%



          ก่อนที่จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ 1 ต.ค. เทศกาลที่มีความสำคัญรองจากเทศกาลตรุษจีน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ตลาดขนมไหว้พระจันทร์ปี 2563 จะมีมูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท หดตัวลงร้อยละ 15.8 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากตลาดได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวรุนแรง จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มูลค่าที่ลดลงมาทั้งจากจำนวนผู้เข้าร่วมเทศกาลและการซื้อขนมไหว้พระจันทร์ลดลง คาดว่า ผู้ผลิตกลุ่มที่มีราคาต่อหน่วยสูง ซึ่งจับตลาดกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ทั้งนักท่องเที่ยวและภาคธุรกิจที่ซื้อเป็นของฝาก เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องมีแผนรับมือ (ยกเว้นกลุ่มที่มีลูกค้าประจำและมีกำลังซื้อสูง) ขณะที่กลุ่มผู้ผลิตดั้งเดิม และผู้ผลิตเบเกอรี่ที่ทำตลาดมานานมีกลุ่มลูกค้าประจำ เน้นกลุ่มที่ซื้อไปกินและไหว้ และสินค้ามีราคาไม่สูง น่าจะได้รับผลกระทบในสัดส่วนที่น้อยกว่า



          ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ผู้ประกอบการขนมไหว้พระจันทร์รอเวลาที่ตลาดจะกลับมาฟื้นตัวในช่วงปีต่อ ๆ ไป แต่การรับมือกับสภาพตลาดช่วงนี้อาจไม่ง่าย เนื่องจากต้องเผชิญทั้งความท้าทายจากกำลังซื้อที่หดตัว การแข่งขันที่รุนแรงภายใต้ความภักดีต่อตราสินค้าที่น้อย จึงขึ้นอยู่ที่ธุรกิจจะหากลยุทธ์การพัฒนาสินค้าที่มีความแตกต่างและสร้างความจดจำ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มผู้ซื้อที่มีความหลากหลายมากขึ้น 



โปรดเกล้าฯ'พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข' นั่งผบ.ตร.คนใหม่



          เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระบุว่ามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ จำนวน 298 ราย มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ 



1.พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)



2.พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)



3.พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)  



4.พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  (รอง ผบ.ตร.)  



5.พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ดำรงตำแหน่ง จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.)  



ปธ.สภาฯ เผยฟ้องศาลรัฐธรรมนูญได้ หลัง ส.ส.พรรคก้าวไกล คิดว่าการตั้งกมธ.ศึกษารัฐธรรมนูญไม่ถูกต้อง




          ที่ประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อคืนนี้ ลงมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ศึกษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยคะแนน 432 ต่อ 255 เสียง งดออกเสียง 28 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง กมธ. 45 คน ประกอบด้วย ส.ว.15 คน และ ส.ส. 30 คน ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ พรรคละ 8 คน พรรคภูมิใจไทย 4 คน พรรคประชาธิปัตย์และพรรคก้าวไกล 3 คน พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ อย่างละ 1 คน แต่ปรากฏว่า พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ และพรรคเศรษฐกิจใหม่ ประกาศถอนตัวไม่ขอร่วมเป็น กมธ.ศึกษารัฐธรรมนูญ ทำให้เหลือ กมธ.ชุดดังกล่าว เพียง 31 คน



          ด้านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตว่า การลงมติตั้ง กมธ.ศึกษารัฐธรรมนูญ ไม่ถูกต้อง ผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 163 เนื่องจากมีรัฐมนตรีร่วมลงมติด้วย ซึ่งไม่สามารถทำได้เพราะเป็นการประชุมร่วมรัฐสภา ไม่ใช่การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย  ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า สามารถร้องศาลรัฐธรรมนูญได้ และเมื่อตั้งกมธ.เสร็จสิ้น ที่ประชุมได้รับทราบ พ.ร.ฎ.ปิดสมัยประชุมสภาฯ



 

ข่าวทั้งหมด

X