การประชุมทางไกลของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ยังคงเป็นเวทีขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีนเกี่ยวกับโควิด-19 เมื่อนางเคลลี คราฟต์ เอกอัครทูตสหรัฐประจำองค์การสหประชาชาติ กล่าววิจารณ์จีนว่าพยายามซ่อนข้อมูลที่เป็นต้นกำเนิดของไวรัสอันตราย ไม่ให้ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์จนทำให้การแพร่ระบาดในท้องถิ่นกลายเป็นการระบาดไปทั่วโลก
จากนั้นนายจาง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ กล่าวตอบโต้ในทันทีว่าสหรัฐฯคือผู้ที่สร้างปัญหาให้กับโลก และเป็นที่น่าเสียใจที่สหรัฐฯ ยังคงแสดงความเห็นที่ขัดแย้งกับบรรยากาศของการประชุมด้วยการกล่าวหาจีนโดยไม่มีมูลความจริง
การโต้เถียงยังเกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติตำหนิจีนว่าเป็นต้นกำเนิดของโควิด-19 และไม่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ที่เขาเรียกว่า "ไวรัสจีน"
ด้านนายวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ ได้วิจารณ์คำกล่าวของนางคราฟต์เช่นกัน โดยระบุว่า มีความเสียใจที่ผู้แทนของสหรัฐฯเลือกเวทีการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ในการกล่าวหา 1 ในสมาชิกอย่างไม่มีมูล
ด้านนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติได้กล่าวย้ำหลายครั้งว่าขอให้สมาชิกมีความเป็นเอกภาพ และเตือนว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯกับจีนกำลังดำเนินไปในทิศทางที่อันตรายมาก
....