หลังสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ยกเลิกสัญญาคลินิกและ รพ.เอกชนใน กทม. ที่ทุจริตการเบิกจ่ายงบ จนกระทบผู้มีสิทธิบัตรทองกว่า 1 ล้านคน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำชับให้ไม่มีการเรียกเก็บเงินในการขอข้อมูลเด็ดขาด เพราะเรื่องนี้เป็นความผิดพลาดจากสปสช. หากเกิดค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม สปสช.ต้องรับผิดชอบ ประชาชนไม่ได้ผิดอะไร
นายอนุทิน ย้ำว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ มันไม่จบแค่นี้ ต้องหาความจริงให้ได้ และไม่ใช่เลิกรากันไป ต้องดำเนินคดีคนทำผิด คนร่วมทำผิด นี่ถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญมาก เอาเงินภาษีประชาชนในการดูแลสุขภาพประชาชนคนไทย ไปปู้ยี่ปู้ยำแบบนี้ งานก็ไม่ทำ ส่งแต่บิลเรียกเก็บเงิน ใครจะไปยอมได้ “ผมก็ไม่ยอมอยู่แล้ว”
ด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ขณะนี้แนวทางแก้ไขที่ สปสช.เร่งดำเนินการ คือเตรียมเพิ่มคู่สายในเบอร์สายด่วน 1330 จากเดิม 60 คู่สาย เป็น 1,000 คู่สาย ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบระบบ ส่วนใหญ่พบเป็นคำถามซ้ำๆ เพราะประชาชนตกใจที่มีการยกเลิกสัญญากับคลินิก ขอย้ำว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นเฉพาะที่กรุงเทพฯ เท่านั้น ซึ่งมีคลินิกชุมชนอบอุ่นทั้งหมดประมาณ 200 แห่ง โดยขณะนี้มีคลินิกที่พบการทุจริตต้องยกเลิกสัญญาไปแล้ว 82 แห่ง ส่วนล็อตหลังที่พบว่ามีความผิด 106 แห่ง ยังไม่ได้ยกเลิกสัญญา อยู่ระหว่างดำเนินการทางกฎหมาย