ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน 2563

ข่าวปลอม! อย่าส่งต่อ ‘พายุดอลฟินเข้าไทย 28 ก.ย.’   

          ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีข้อความเผยแพร่เรื่องพายุดอลฟิน เข้าไทย 28 ก.ย.นี้ ทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน น้ำป่าไหลหลาก เป็นข้อมูลเท็จขออย่าแชร์หรือส่งต่อข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง จากข้อเท็จจริง กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า พายุดอลฟิน ไม่ส่งผลกระทบกับประเทศไทย เพราะทิศทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น   

สถานทูต เตือนคนไทยในญี่ปุ่นระวังพายุดอลฟิน  

         ทิศทางของพายุ สถานเอกอัครราชทูต ณ.กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รายงานอ้างอิงกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ประกาศเตือนภัย ไต้ฝุ่นหมายเลข 12 Dolphin คาดการณ์ว่าในวันนี้ จะเคลื่อนเข้าใกล้เขตคันโต (ทางตะวันออกของญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงโตเกียว) ช่วงระหว่างวันที่ 24-25 ก.ย. จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่เขตโทไก (ตอนกลาง) ไปจนถึงแถบคันโต และโทโฮคุ (ตะวันออกเฉียงเหนือ) ของญี่ปุ่น ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรง คาดว่า ในวันพรุ่งนี้ 25 ก.ย.กระแสลมพายุจะถึงฝั่งบริเวณโทโฮคุ จะมีความเร็วลมสูงสุดถึง 35 เมตรต่อวินาที เตือนคนไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวระมัดระวังเตรียมพร้อมและติดตามข่าวสารจากทางการญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด

CR:สถานเอกอัครราชทูต ณ.กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ,NHK,กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น

ดีเจก๊อง อรรณพ พูนศรีพัฒนา ขับรถชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิต ช่วงโค้งร้อยศพ

          อุบัติเหตุรถเก๋งชนเสาไฟฟ้า ช่วงโค้งร้อยศพ ฝั่งตรงข้ามศาลอาญา รัชดา ก่อนถึงปากซอยรัชดาภิเษก 32 เล็กน้อย เมื่อช่วง 02.00 น. ทำให้คนขับเสียชีวิต พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ปราบคนชั่ว สว.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตคือ นายอรรณพ พูนศรีพัฒนา หรือก๊อง อายุ 33 ปี อาชีพดีเจ ขับรถโตโยต้า รุ่นอัลติส สีดำ หมายเลขทะเบียน  2 กง 7786 กรุงเทพมหานคร สภาพตัวรถพังเสียหายยับเยิน มีชิ้นส่วนแตกกระจัดกระจายตกเกลื่อนพื้นถนน ถุงลมนิรภัยทั้งด้านคนขับและที่นั่งข้างคนขับทำงาน เข็มไมล์วัดความเร็วหยุดอยู่ที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

          จากการสอบถามพี่สาวและเพื่อน ให้ข้อมูลตรงกันว่า ก่อนเกิดเหตุนายอรรณพ ไปทำงานดีเจที่ร้านเดอะคอนเนอร์ ย่านบางเขน ก่อนจะเร่งทำเวลาเดินทางเพื่อไปทำงานอีกร้านที่ซอยสุขุมวิท 5 ส่วนตัวนายอรรณพไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เบื้องต้นพบว่าไม่มีรถคู่กรณี มีเพียงเสาไฟฟ้าหักเสียหาย 1 ต้น จะประสานประกันภัยมาชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ส่วนสาเหตุคาดว่าช่วงเกิดเหตุฝนกำลังตก ทำให้ถนนเปียกลื่น รถจึงเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าแล้วพลิกคว่ำ หลังจากนี้ จะส่งศพผ่าชันสูตรที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ก่อนให้ญาติรับไปบำเพ็ญกุศล

คนขับ 18 ล้อ  ยอมรับ รถลมเบรคหมด คุมรถไม่อยู่ ทับรถเก๋งเสียชีวิต 1 เจ็บ 2 แยกการไฟฟ้ามีนบุรี

          กรณีอุบัติเหตุรุนแรงเช้าเมื่อวานนี้ รถพ่วง 18 ล้อ ชนรถยนต์ 6 คัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บบริเวณสามแยกการไฟฟ้ามีนบุรี ถ.สุวินทวงศ์ เขตมีนบุรี รถกึ่งพ่วง 18 ล้อ สภาพส่วนหัวลากเกยทับหลังคารถเก๋งฝั่งเบาะคนขับมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ชื่อ นายอานัส จิ๊เลาะ อายุ 27 ปี นอกจากนี้พบผู้บาดเจ็บ คือ นายประเสริฐ จิ๊เลาะ อายุ 52 ปี บิดา น.ส.อัมพร จิ๊เลาะ อายุ 52 ปี มารดา เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลนพรัตน์ 9 นอกจากนี้รถยนต์ที่ได้รับความเสียหายอีก 5 คัน รวมอุบัติเหตุครั้งนี้ชนสนั่นกันทั้งหมด 7 คัน

          ตำรวจสามารถควบคุมตัวนายเพียร ศรีเจริญ อายุ 41 ปี คนขับรถพ่วงที่ก่อเหตุให้การว่าขับรถจาก จ.สระบุรี เพื่อมาส่งหินที่ ซ.สุวินทวงศ์ 18 หลังจากนั้นกำลังขับรถกลับ แต่ลมเบรคตัวลูกหมด ในขณะที่เบรคตัวแม่ ซึ่งเป็นระบบน้ำมันแตก จึงจอดรถและลงมาดูพบว่าลมเบรคเหลือ 6 เปอร์เซ็นต์ ก่อนตัดสินใจขับรถต่อแต่ไม่สามารถควบคุมรถได้และพุ่งชนจนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ประสาน INTERPOL ออกหมายแดงตามจับ ‘บอส อยู่วิทยา’

          พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ว่า ได้รับรายงานจาก สน.ทองหล่อ ว่าพนักงานสอบสวน ได้รับหนังสือจากสำนักงานอัยการสูงสุด แจ้งคำสั่งฟ้องนายวรยุทธ  ในข้อหาความผิดฐาน ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) โดยผิดกฎหมาย พร้อมให้ติดตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย หลังจากนี้พนักงานสอบสวน จะมีหนังสือไปยังกองการต่างประเทศ เพื่อที่จะประสานไปยังองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) ดำเนินการประกาศตำรวจสากลสีแดง หรือ INTERPOL RED NOTICE ให้ติดตามตัวนายวรยุทธ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ภายในอายุความ โดยจะแจ้งไปยังประเทศสมาชิกองค์การตำรวจสากลทั้ง 194 ประเทศ เพื่อให้ทราบว่าบุคคลดังกล่าว เป็นบุคคลที่ทางการไทยต้องการตัวกลับมาดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของไทย