ประธานาธิบดีอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ เตือนความตึงเครียดระหว่างมหาอำนาจอาจนำไปสู่สงคราม บนเวทีสมัชชาสหประชาชาติ

          ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย กล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ว่าเสถียรภาพและสันติภาพของโลกอาจถูกทำลายหากยังมีการแข่งขันทางภูมิศาสตร์และการเมืองต่อไป เขากล่าวว่า  สงครามไม่ได้ทำให้ฝ่ายใดได้ประโยชน์ ไม่มีประเทศใดที่จะกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางโลกที่กำลังจะจมลง

          ความคิดเห็นของประธานาธิบดีอินโดนีเซียมีขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนทวีความรุนแรงขึ้น รวมทั้งความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ซึ่งจีนอ้างว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นของจีน แต่หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งอินโดนีเซียคัดค้านโดยอ้างถึงบทบัญญัติในอนุสัญญาทางทะเลของสหประชาชาติ

          เมื่อต้นเดือนนี้ รัฐบาลอินโดนีเซีย ยังได้ยื่นหนังสือประท้วงกรณีที่เรือตรวจการณ์ชายฝั่งของจีนเข้ามาในพื้นที่ที่มีการอ้างสิทธิ์ทับซ้อน ซึ่งประธานาธิบดีวิโดโด กล่าวว่า หลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศมักถูกละเลย รวมถึงการเคารพต่ออำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน

          ประเด็นอันตรายจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน ยังเป็นหัวข้อที่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติเช่นกัน โดยฟิลิปปินส์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีข้อพิพาทกับจีนเกี่ยวกับสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ ซึ่งผู้นำฟิลิปปินส์เตือนว่าความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์-การเมืองที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดความกลัวและทำให้ผู้คนแตกแยก เขาจึงเรียกร้องต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทะเลจีนใต้ คาบสมุทรเกาหลี ตะวันออกกลางและแอฟริกา ว่า “หากเราเป็นเพื่อนกันไม่ได้ ในนามของพระเจ้าก็ขอว่าอย่าเกลียดกันมากเกินไป”

          นอกจากนี้ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ยังกล่าวเรียกร้องความเท่าเทียมกันของประเทศต่าง ๆ ในการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 และเรียกร้องให้องค์การอนามัยโลก มีการประสานงานอย่างรวดเร็วและตอบสนองต่อสถานการณ์ได้เร็วขึ้น

....