ครม.ต่ออายุมาตรการลดค่าน้ำ ค่าไฟ ช่วยผู้มีรายได้น้อยอีก 1 ปี
คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาออกไปอีก 1 ปี เริ่มตั้งแต่เดือนต.ค.2563 – เดือนก.ย.2564 เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 13.9 ล้านคน คิดเป็นครัวเรือนประมาณ 8 ล้านครัวเรือน ซึ่ง 1 ครัวเรือน สามารถใช้ได้เพียง 1 สิทธิ์เท่านั้น
-ค่าไฟฟ้า กรณีใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน ให้ใช้สิทธิ์ค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการปัจจุบัน แต่กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้สิทธิ์ตามมาตรการนี้ ในวงเงิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน หากใช้เกินวงเงินที่กำหนด ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องเป็นผู้จ่ายค่าไฟฟ้าทั้งหมด
-ค่าน้ำประปา ให้ใช้น้ำประปาในวงเงิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน หากใช้เกินวงเงินผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องเป็นผู้จ่ายค่าน้ำประปาทั้งหมด
สธ.เตรียมเสนอมาตรการร้านนวด-สปา บริการต่างชาติ นำร่องภาคใต้
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึง การจัดทำมาตรการควบคุมโควิด-19 ในสถานประกอบการนวดไทยและนวดสปาว่าหลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ได้อนุมัติหลักการของ Wellness Quarantine ในสถานประกอบการร้านนวดสปา ซึ่งเป็น 1 ในรูปแบบของโปรแกรม Medical and Wellness Program ที่เป็นการรับชาวต่างประเทศเข้ามาเพื่อการดูแลและรักษาสุขภาพควบคู่กับการกักกันโรค ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับสมาคม โดยมีร้านนวดสปาเข้าร่วมการออกแบบมาตรการประมาณ 4-5 แห่ง ในการทำแผนการทำงานเพิ่มเติม คาดว่า ในสัปดาห์หน้าจะเสนอให้ ศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาและเสนอที่ประชุมครม.ต่อไป คาดว่า ภายใน 3 สัปดาห์ จะกำหนดมาตรการต่างๆ แล้วเสร็จ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดรับแล้วก็ต้องมีการประเมินมาตรฐานและขั้นตอนการรับผู้เดินทางเข้ามาด้วย คงต้องใช้เวลา 1-2 เดือน เน้นย้ำว่า จะต้องแยกพื้นที่ของผู้รับบริการที่มาจากต่างประเทศ กับผู้รับบริการในประเทศให้ชัดเจน ไม่ปะปนกันทั้งสถานที่และกลุ่มผู้ให้บริการ เบื้องต้นจะเปิดนำร่องในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีคุณภาพนิยมเข้ามาเที่ยว เช่น จ.กระบี่ จะต้องเรียนผู้ประกอบการว่าพื้นที่ที่ใช้ในการดำเนินการ ไม่จำเป็นต้องมีความกว้างขวางมาก แต่ที่สำคัญคือ จะต้องมีความชัดเจนในการแยกพื้นที่
สปสช.แจงมาตรการช่วยเหลือผู้ถือสิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบ
ปัญหาหน่วยบริการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายบริการสาธารณสุขเกินจริง ทำให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ยกเลิกสัญญาคลินิกและโรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากพบทุจริต นายจิรวุสฐ์ สุขได้พึ่ง คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(บอร์ดสปสช.)ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบรูปแบบการทุจริตที่มีหลักฐานชัดเจน เช่น อ้างชื่อคนเพื่อเบิกเงินทั้งที่บุคคลนั้นไม่ได้เข้ารับการรักษา หรือการสร้างชื่อพนักงานบริษัทขึ้นมาจำนวนหนึ่ง เพื่อมาเบิกจ่ายแต่กลับพบว่ารายชื่อนั้นไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัท ซึ่งเป็นการจงใจสร้างหลักฐานเท็จขึ้นเพื่อเบิกเงินจาก สปสช.ถือว่าเป็นการทุจริต เป็นความผิดอาญา ได้แจ้งให้สปสช.แจ้งความร้องทุกข์กับกองปราบปราม 3 ล็อต ตรวจสอบพบทุจริตแล้ว 188 แห่ง และจะดำเนินการเรียกค่าเสียหายคืนทั้งหมด หากไม่คืนก็จะมีการฟ้องเรียกค่าเสียหายและยกเลิกสัญญาทั้งหมด
ด้านนพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ในส่วนการตรวจสอบพบทุจริตในล็อตที่ 3 จำนวน 106 แห่ง มีประชาชนที่จะได้รับผลกระทบอีกราว 900,000 คน ถึง 1,000,000 คน อยู่ระหว่างการประสานและดำเนินการเพื่อหาหน่วยบริการรองรับ ส่วนมูลค่าความเสียหายรวมทั้ง 3 ล็อตเป็นเงิน 195 ล้านบาท
การดูแลผู้อยู่ในสิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบ จากการตรวจพบการทุจริตในล็อตที่ 1 ยกเลิกสัญญา 18 แห่ง กระทบราว 200,000 คน จัดหาให้เข้าสู่หน่วยบริการแล้ว ส่วนล็อตที่ 2 ยกเลิกสัญญา 64 แห่ง กระทบราว 800,000 คน แบ่งดำเนินการเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1.โรคที่ต้องอาศัยโรงพยาบาลในการดูแล เช่น ผ่าตัด คลอดบุตร ล้างไต ซึ่งมีโรงพยาบาลถูกยกเลิกสัญญา 6 แห่ง สปสช.ประสานไปยังผู้ป่วยเพื่อแจ้งสถานพยาบาลที่จะได้รับบริการให้ทราบแล้ว และโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 090-197-5271 หากยังมีข้อสงสัย
2.กลุ่มโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ที่ต้องได้รับการดูแลสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ สปสช.ได้ประสานสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ในการดูแลผู้ป่วยในระยะสั้น สามารถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขกรุงเทพมหานครทั้ง 69 แห่ง สปสช.ได้ส่งข้อมูลประวัติผู้ป่วยให้ศูนย์ในพื้นที่แล้ว
3. โรคทั่วๆไป อาการเจ็บป่วยที่ไม่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่อง เข้ารับบริการผู้ป่วยนอก ขณะนี้จะถือว่าเป็นสิทธิว่างได้รับวีซ่าพิเศษ หากเจ็บป่วยสามารถเข้ารับบริการที่หน่วยบริการบัตรทองได้ทั้งของรัฐและเอกชนที่ใดก็ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพราะหน่วยบริการจะเบิกมาที่สปสช.ได้ส่งหนังสือถึงหน่วยบริการต่างๆทราบแล้ว
CR:สปสช.
ผบ.ตร.สั่ง สภ.หนองสรวง นครราชสีมา สอบข้อเท็จจริงคลิปเรียกรับเงิน
กรณีที่มีการเเชร์คลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกรับเงินจากคนขับรถบรรทุก เหตุเกิดในท้องที่ สภ.หนองสรวง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาว่าจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าบุคคลที่ปรากฎตามคลิปเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ยศดาบตำรวจ ตำเเหน่ง ผบ.หมู่ ป. สภ.หนองสรวง โดยได้มีคำสั่งให้ สภ.หนองสรวงทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายผลให้ทราบภายใน 7 วัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กำชับคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงไปมา เร่งคลี่คลายข้อสงสัยและหากพบว่าตำรวจนายดังกล่าวกระทำผิดจริง ให้ดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด
ผลประชุมผู้นำเหล่าทัพ ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนกองทัพบกในทุกมิติ
...
เบ็คแฮมเตรียมรับพระราชทานบรรดาศักดิ์อัศวินในสัปดาห์หน้า
...
อธิบดีกรมเจ้าท่าและผู้ว่าฯชลบุรี มั่นใจขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลที่ทะเลศรีราชาในวันนี้
...
ข่าวทั้งหมด
