*สนช.พบชาวมุกดาหารรับฟังการปฎิรูปแจงทำงานผ่านกม.กว่า100ฉบับ*

การลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหารเพื่อรับฟังความเห็นจากภาคประชาชนของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือ สนช. ที่นำโดย นาย พีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติคนที่ 2 ในโครงการ"สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติพบประชาชน" ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกนาย พีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช.คนที่ 2 ระบุว่า สนช.เกิดจากการแต่งตั้งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ที่เข้ามารัฐประหารในสถานการณ์ที่จำเป็น เพราะขณะนั้นรัฐบาลไม่สามารถหาทางออกของความขัดแย้งที่มีมากได้ พร้อมยืนยันว่าคสช.ไม่มีนโยบายที่จะคงสภาพตัวเองหรือแปรสภาพแม่น้ำทั้ง 5 สายที่ประกอบด้วย คสช. สนช. สภาปฎิรูปแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี และคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญไปเป็นองค์กรถาวร และพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีความต้องการที่จะสืบทอดอำนาจ แต่ต้องการพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง และขจัดปัญหาสีเสื้อในอดีต พร้อมระบุว่า สังคมไทยในอดีตมีปัญหาจากหน่วยงานราชการของรัฐ และบุคคลที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขโดยเร็ว ส่วนการทำงานของสนช. ที่มีการผ่านกฎหมายกว่า 100 ฉบับทั้งในวาระที่1-3 เป็นกฎหมายที่ต้องเร่งผ่าน เพราะมีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ รวมทั้งบางฉบับเป็นกฎหมายที่มีปัจจัยการเมืองมาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะไม่สามารถออกได้ในรัฐบาลปกติ ยืนยันว่าการทำงานของสนช.เป็นไปตามขั้นตอนและไม่มีองค์กรใดครอบงำการทำงาน รวมทั้งพร้อมรับฟังความเห็นจากประชาชนทุกส่วน ส่วนการปฎิรูปประเทศต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ขณะที่ นาย พรศักดิ์ เจียรณัย สมาชิกสนช.ระบุว่า พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภูมิภาคที่สำคัญทางเศรษฐกิจ และยังมีเขตเศรษฐกิจพิเศษในจ.มุกดาหาร การมารับฟังความเห็นในพื้นที่นี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนการทำงานของสนช. ยืนยันว่าทำงานอย่างโปร่งใส และทำเพื่อผลประโยชน์ของทุกฝ่าย และขณะนี้สนช.ก็ได้ออกกฎหมายที่ไม่เคยออกได้ในภาวะปกติหลายฉบับ เช่น พระราชบัญญัติการรับภาษีมรดก
ส่วนการปฎิรูปประเทศ ทุกฝ่ายจะต้องได้รับผลประโยชน์ ส่วนการรับฟังความเห็นจากประชาชนในวันนี้ ภาคประชาชนได้เสนอให้สนช.แก้ไขปัญหาต่างๆจำนวนมาก เช่น ปัญหาที่ดินทำกิน การให้ความสำคัญกับเกษตรกรและการแก้ไขราคาเกษตร รวมทั้งยังมีการตั้งข้อสงสัยถึงการทำงานของสนช.และรัฐบาลด้วย โดย นาย ตวง อันทะไชย สมาชิกสนช.ระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีการบัญญัติการช่วยเหลือเกษตรกรไว้ และขณะนี้ก็มีคณะกรรมาธิการคอยดูแลเกษตรกรอยู่แล้ว รวมทั้งจะหามาตรการพัฒนาราคาสินค้าเกษตรให้ได้ ขณะเดียวกันรัฐบาลจะแจกเอกสารที่ดินทำกินกว่า 50,000ไร่ ให้ประชาชนที่ขาดที่ดินทำกินใน 4 จังหวัดนำร่อง เช่น จ.มุกดาหาร จ.เชียงใหม่ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2558 แต่ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ต้องเข้าองค์ประกอบที่กำหนดไว้ของรัฐ เช่น มีรายได้ไม่เกิน 30,000บ.ต่อปี และจากการสำรวจของกรมป่าไม้ยังพบพื้นที่ป่ารกร้างที่สามารถนำมาเป็นที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนได้อีกหลายล้านไร่ คาดว่าหลังเดือนกุมภาพันธ์ 2558 จะมีความชัดเจนมากขึ้น และจะมีการบัญญัติกฎหมายการช่วยเหลือผู้ขาดที่ดินทำกินในระยะยาวต่อไป นอกจากนี้ประชาชนยังเรียกร้องให้ช่วยแก้ไขปัญหาในท้องที่ ซึ่งสมาชิกสนช.ก็ระบุว่าจะนำเรื่องไปประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป /ธีรวัฒน์