กรุงมาดริดใช้มาตรการล็อกดาวน์ในบางพื้นที่เพื่อควบคุมโควิด-19

          พื้นที่บางส่วนของกรุงมาดริด สเปนต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยตั้งแต่วันจันทร์ (21 ก.ย.) เป็นต้นไปประชาชนมากกว่า 850,000 คน จะต้องถูกจำกัดการเดินทางและการรวมกลุ่มถูกจำกัดจำนวนไว้ที่ไม่เกิน 6 คน ผู้อยู่อาศัยจะสามารถออกจากที่พักเพื่อไปทำงาน ไปโรงเรียนหรือไปพบแพทย์เท่านั้น ให้ปิดสวนสาธารณะทุกแห่ง ส่วนธุรกิจการค้าจะต้องปิดทำการภายในเวลา 22.00 น.

          สเปนมีผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันสะสมมากที่สุดในยุโรป คือ 640,040 คน เสียชีวิต 30,495 ราย โดยกรุงมาดริดได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในประเทศ ขณะที่หลายประเทศในซีกโลกเหนือกำลังเผชิญกับสถานการณ์ของโรคระบาดที่รุนแรงขึ้นในช่วงฤดูหนาว นพ.ไมค์ ไรอัน หัวหน้าโครงการภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพขององค์การอนามัยโลก เตือนว่า ยังต้องมีการทำงานอีกมากมายเพื่อลดการแพร่ระบาด เพื่อเป็นการปกป้องผู้ที่เปราะบางที่สุดในสังคมของเรา

          ขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสมีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ที่ได้รับการยืนยันเกือบ 3,000 คนในรอบ 24 ชั่วโมงเป็นจำนวนที่มากที่สุดนับตั้งแต่พบผู้ป่วยรายแรกโดยในกลุ่มผู้ป่วยใหม่ยังรวมถึงนายบรูโน เลอแมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และทางการท้องถิ่นหลายเมืองรวมถึงมาร์เซย์ และนีซได้เพิ่มมาตรการป้องกันโรคระบาดที่มีความเข้มงวดมากขึ้น โดยจำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมของฝรั่งเศสคือ 467,421 คน เสียชีวิต 31,257 ราย

          ส่วนสหราชอาณาจักรมีผู้ป่วยรายใหม่ 4,322 รายและเสียชีวิต 27 รายในวันศุกร์ซึ่งเป็นจำนวนผู้ป่วยสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม ทำให้นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันเตือนว่าสถานการณ์แพร่ระบาดในรอบที่ 2 เป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะอังกฤษอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ สหราชอาณาจักรมีผู้ป่วยสะสม 388,416 คนและเสียชีวิตแล้ว 41,821 ราย

....