รองอธิบดีฝ่ายบริหาร กรมชลฯ วางแผน 3 ด้าน เก็บน้ำฝนจากพายุโนอึล

         กรมชลประทาน วางแผนปฏิบัติการรับมือ พายุระดับ 3 (โซนร้อน) “โนอึล” 3 ด้าน คือ การสำรวจพื้นที่ ,การเตรียมกำลังพล และการวางเครื่องมือ นายสุชาติ เจริญศรี รองอธิบดีฝ่ายบริหาร กรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการคาดการณ์มองว่าสถานการณ์ไม่น่าจะเลวร้าย และจะเป็นผลดีทำให้เขื่อนต่างๆสามารถเก็บน้ำ แต่เรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง อันดับแรก คือ ดินโคลนถล่มและน้ำหลาก หน่วยงานต่างๆ เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด จะเป็นผู้บัญชาการภัยในพื้นที่ เพื่อบรรเทาสาธารณภัย ขณะที่กรมชลประทานจะเป็นหน่วยงานที่คอยสนับสนุน ตามแผนรับมือ 3 ด้าน พร้อมปฏิบัติงานทันที ได้แก่

-มีการสำรวจเชิงพื้นที่ก่อนพายุเข้า โดยให้ทราบว่าส่วนไหนจะถูกพายุบ้าง และเตรียมพื้นที่รับน้ำ ด้วยการใช้เครื่องมือที่วางไว้แล้วเคลียร์พื้นที่ไม่ให้มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ

-จัดกำลังพล โดยใช้ศูนย์บริหารจัดการน้ำอัจฉริยะ ประสานงานแจ้งข้อมูลข่าวกระจายทุกจังหวัด 24 ชั่วโมง เป็นการจัดการแผนฉุกเฉินเผชิญเหตุ

-วางเครื่องมือหลักๆ เป็นของส่วนกลางทั้งหมด 7 ศูนย์ของสำนักเครื่องจักรกล เป็นเครื่องมือหนัก เช่น เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่,รถบรรทุกน้ำขนาดใหญ่, เครื่องปั่นไฟฟ้า ,เครื่องผลักดันน้ำและรถแบคโฮ ที่เตรียมความพร้อมปฎิบัติงาน 24 ชั่วโมง

          ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำและในเขื่อนต่างๆ มีน้ำประมาณกว่า 30,000 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 40 ใช้การได้กว่า 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 23 คาดว่า สถานการณ์ฝนตกหนักจากพายุจะช่วยเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำและเขื่อน  หากฝนตกเหนือเขื่อนโดยเฉพาะเหนือเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ จะได้ประโยชน์มากกว่าเสียประโยชน์ พร้อมย้ำว่าวันนี้น้ำในอ่างเก็บน้ำยังน้อย เก็บได้ต้องรีบเก็บ เพราะฤดูฝนใกล้หมดแล้ว จะได้มีน้ำใช้ในหน้าแล้ง

          ขณะที่ ประชาชน สามารถเก็บน้ำไว้ได้ ด้วยการเตรียมภาชนะเก็บกักน้ำไว้ ขณะที่ แหล่งน้ำในชุมชนใหญ่ๆ ถ้าเก็บได้ให้รีบเก็บ จะได้ไม่ต้องรอหน่วยงาน ส่วนภาคการเกษตร แนะนำหาวิธีการทำเกษตรแนวใหม่ที่ไม่ต้องใช้น้ำมาก จะได้ประหยัดน้ำ สุดท้ายยังต้องให้ความสำคัญกับระบบนิเวศซึ่งอาจจะต้องใช้น้ำดีลงไปเจือจางเพื่อจะให้มีน้ำใต้ดินใช้ได้ตลอดปี

ภาพกรมชลประทาน