ทำผิดจนเป็นนิสัย! ภูเก็ตเร่งแก้จุดเสี่ยงเพื่อลดอุบัติเหตุกว่า 200 จุด แต่คนยังทำผิดกฎ

         การแก้ปัญหาจราจรและอุบัติเหตุในพื้นที่ จ. ภูเก็ต เมืองท่องเที่ยว แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรในระดับจังหวัด (สอจร.) โดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ศึกษาการจัดทำยุทธศาสตร์ด้านการจัดการอันตรายบนถนนของจังหวัด และการแก้ไขจุดเสี่ยงไปแล้วกว่า 200 จุด แม้อุบัติเหตุจะลดลง แต่ทุกวันนี้ยังมีคนละเมิดกฎจราจร ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

         พล.ต.ท.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ปัญหาคนละเมิดกฎจราจรกระทบชีวิตประจำวันทุกคน ตำรวจจึงต้องเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังไม่เว้นแม้แต่ชาวต่างชาติ แต่ก็ยังพบปัญหาเพราะทุกวันนี้ค่าเฉลี่ยผู้ฝ่าฝืนและไปเสียค่าปรับมีแค่ร้อยละ 10 เท่านั้น เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่ทำประชาชนไม่เข้าใจในข้อกฎหมายจราจร ได้แก่

-เมื่อประชาชนโดนจับกุมส่วนใหญ่จะมีการโต้เถียง เช่น การจอดรถขณะติดไฟแดงแต่ล้ำเส้นจราจร นั่นคือส่วนใหญ่ยังไม่มีความรู้อย่างลึกซึ้ง

-การทำผิดมาอย่างยาวนานจนเข้าใจว่าทำถูกต้องแล้ว เช่น จอดรถทับทางม้าลาย ฝ่าฝืนจุดห้ามจอดขาวแดง หรือจุดให้จอดได้ชั่วคราวขาวเหลือง

         ขณะที่ ตำรวจบางกลุ่มอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายหาประโยชน์ส่วนตัว ทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย  อย่างไรก็ตาม ภูเก็ต เป็นจังหวัดที่มีค่าเฉลี่ยการจับกุมผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดยเฉพาะข้อหาเมาแล้วขับ พบในคนไทยมากกว่าต่างชาติ และการตรวจจับผู้ขับขี่ที่ไม่สวมหมวกกันน็อค ทำให้ทุกวันนี้อัตราสวมหมวกกันน็อคขยับเพิ่มสูงขึ้นเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากกรุงเทพฯ จะเห็นได้จากความรุนแรงจากอุบัติเหตุบนท้องถนนทำให้มีผู้เสียชีวิตน้อยลง และปัจจุบันทั่วเมืองภูเก็ตมีกล้องตรวจจับการฝ่าไฟแดงกระจายอยู่ 10 จุด เพื่อลดอุบัติเหตุจากการฝ่าสัญญาณไฟจราจร

         นอกจากนี้ ยังได้ทำการเก็บข้อมูลจุดเสี่ยงต่างๆ นำมาวิเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหาดำเนินการควบคู่กับการแก้ทางวิศวกรรมจราจร และอีกส่วนต้องพยายามแก้ที่พฤติกรรมการขับขี่โดยเฉพาะกวดขันการใช้ความเร็ว และตรวจจับเรื่องเมาแล้วขับและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด