ชาวอิรักเคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ออกจากสุสานชั่วคราว

          ทางการอิรัก ประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 โดยอนุญาตให้ครอบครัวนำร่างของสมาชิกในครอบครัวที่เสียชีวิตจากโควิด-19 และฝังไว้ในสุสานชั่วคราว กลับไปประกอบพิธีทางศาสนาได้

          อิรักเป็นหนึ่งในประเทศตะวันออกกลางที่มีผู้ป่วยโควิด-19 จำนวนมาก โดยมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 280,000 คนและมีผู้เสียชีวิตเกือบ 8,000 ราย ซึ่งจากที่มีความกังวลว่าศพผู้เสียชีวิตจะแพร่เชื้อโรคได้ ทางการอิรักจึงกำหนดให้มี "สุสานโคโรนาไวรัส" ในพื้นที่ทะเลทรายนอกเมืองนาจาฟ ซึ่งอาสาสมัครในพื้นที่นี้จะสวมชุดป้องกัน และใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างระมัดระวัง แต่ละศพจะถูกฝังเว้นระยะห่างกัน 5 เมตร ญาติเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการฝังศพอย่างรวดเร็วซึ่งมักเกิดขึ้นในตอนกลางดึก

          เมื่อวันที่ 4 กันยายน องค์การอนามัยโลก รายงานว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่จะมีการติดเชื้อจากซากศพมนุษย์ ครอบครัวผู้เสียชีวิตจึงเรียกร้องทางการอนุญาตให้พวกเขาสามารถเคลื่อนย้ายร่างของสมาชิกครอบครัวออกมาจากสุสานชั่วคราวได้

          จนถึงเมื่อวันที่ 7 กันยายน รัฐบาลระบุว่าจะอนุญาตให้ย้ายศพโดยทีมสุขภาพเฉพาะทางเท่านั้น

          แต่ปรากฏว่าตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 กันยายน มีสมาชิกหลายร้อยครอบครัวรวมตัวกันที่ด้านหน้าของสุสานฯ ในทะเลทรายนอกเมืองนาจาฟ และมีการขุดศพสมาชิกในครอบครัวด้วยตนเอง แล้วเคลื่อนย้ายกลับไปประกอบพิธีตามหลักศาสนาที่บ้านเกิด

          อย่างไรก็ตาม ที่สุสานไม่มีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ หรือผู้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการค้นหาหรือขุดศพได้อย่างถูกต้อง ทั้งยังพบว่ามีหลายหลุมที่ป้ายชื่อที่หน้าหลุมศพไม่ตรงกับร่างของผู้ที่ถูกฝังไว้ บางหลุมไม่มีร่างผู้เสียชีวิต บางศพไม่มีการห่อด้วยผ้าห่อศพซึ่งทำให้หลายครอบครัวไม่พอใจ ก่อเหตุวางเพลิงค่ายพักของกลุ่มติดอาวุธที่รับผิดชอบการฝังศพ

.....