*มาเลเซียยังไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินจากน้ำท่วมหนักสุดในรอบ30ปี*

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของมาเลเซีย รายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงที่สุดในรอบ30 ปีว่า ยังมีการอพยพประชาชนอย่างน้อย 1 แสน3,412 คน จากหลายเมืองในรัฐกลันตัน ตรังกานู ปะหัง เประ และปะลิส ซึ่งล้วนตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากอุทกภัยครั้งใหญ่ เนื่องจากฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักตลอดช่วง 2 สัปดาห์ นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ผู้นำมาเลเซีย ยอมรับว่า สภาพอากาศที่ยังเลวร้ายส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องการมอบความช่วยเหลือให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด  

 หนังสือพิมพ์นิวสเตรทส์ไทมส์รายงานอ้างคำกล่าวของนายมูห์ยิดดินว่า รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาอย่างเหมาะสมแล้ว มาเลเซียเผชิญอุทกภัยทุกปีแต่ปีนี้ดูเหมือนจะรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี อย่างไรก็ดี รัฐบาลจะไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ยกเว้นไฟฟ้าหรือประปาใช้การไม่ได้โดยสิ้นเชิง หรือต้องอพยพคนเป็นจำนวนมาก รองนายกรัฐมนตรีมูห์ยิดดินยังได้กล่าวปกป้องนายกรัฐมนตรีนาจิบที่ถูกวิจารณ์ในหน้าเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการ หลังจากลงภาพเล่นกอล์ฟกับประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯที่ฮาวายในขณะที่ประชาชนเดือดร้อนจากอุทกภัยว่า นายกรัฐมนตรีทำงานหนักมาตลอดจึงต้องมีเวลาพักผ่อนบ้างในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และขอให้ประชาชนวางใจเพราะเขารับหน้าที่รักษาแทนอยู่

สำนักงานอุตุนิยมวิทยามาเลเซียเตือนว่า จะมีฝนตกหนักในอีกหลายวันข้างหน้าในหลายพื้นที่ ที่ยังไม่ประสบอุทกภัย รวมถึงรัฐยะโฮร์ ทางตอนใต้ของประเทศที่ติดกับสิงคโปร์ ขอให้ประชาชนเตรียมรับมือกับอุทกภัยใหญ่ ทางการในหลายรัฐได้ยกเลิกการจัดงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เพื่อแสดงความเห็นใจผู้ประสบอุทกภัยอยู่ในขณะนี้. สถานการณ์อุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือกำลังจัดพิธีรำลึกครบ 10 ปี แผ่นดินไหวครั้งใหญ่และสึนามิขนาดยักษ์ ที่คร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 2 แสน20,000 ศพ ใน 14 ประเทศ ในจำนวนนี้เป็นชาวมาเลเซียอย่างน้อย 68 ศพ