ผลการวิจัยในสหราชอาณาจักร พบพนักงานทำความสะอาดในโรงพยาบาลติดเชื้อมากกว่าบุคลากรในห้อง ICU

          มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ในสหราชอาณาจักร เผยแพร่ผลการศึกษาการติดเชื้อภายในพบว่า แพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยหนักมีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 น้อยกว่าพนักงานทำความสะอาดและบุคลากรทางการแพทย์อื่น ๆ ภายในโรงพยาบาล ขณะที่บุคคลผิวสี, ชาวเอเชียและชนกลุ่มน้อยมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าเพื่อนร่วมงานผิวขาวเกือบสองเท่า ซึ่งผู้วิจัยสรุปรายงานชิ้นนี้ว่าเป็นการยืนยันถึงอคติในเรื่องเชื้อชาติ ความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ในการจัดสรรอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล หรือPPE ที่เลือกให้คนผิวขาว ก่อน ที่จะให้ชาวเอเชีย หรือ คนผิวสี 

          ศจ.อเล็กซ์ ริกเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญภูมิคุ้มกันวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม หัวหน้าคณะผู้วิจัย กล่าวว่าในเบื้องต้นผู้ที่ทำงานในหน่วยบำบัดเข้มข้น เช่น แผนกผู้ป่วยหนักมักจะอยู่ในลำดับแรกของการจัดสรรชุดอุปกรณ์ป้องกัน จึงได้รับการปกป้องค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น ๆ

          ในรายงานที่มีการตีพิมพ์ในวารสาร Thorax นักวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลของพนักงานมากกว่า 500 คนที่โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ในช่วงปลายเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้ป่วยมากที่สุด โรงพยาบาลมีสถิติรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการหนักเฉลี่ย 5 คนในทุก ๆ ชั่วโมง แต่ความสามารถในการตรวจหาการติดเชื้อยังมีข้อจำกัด ผู้วิจัยจึงตรวจสอบพนักงานที่ไม่มีอาการโดยการตรวจว่าติดเชื้อหรือไม่ และตรวจหาแอนติบอดีที่บ่งชี้ว่าพวกเขาเคยมีไวรัสมาก่อนหรือไม่

          ในกลุ่มพนักงาน 545 คน มีอยู่ 13 คนที่มีผลการตรวจโควิด-19 เป็นบวก

          จากนั้นพนักงาน 516 คนจากกลุ่มที่ไม่พบเชื้อ 532 คนไปเข้ารับการตรวจแอนติบอดี พบว่า 124 คนมีแอนติบอดี

          โดยในกลุ่มพนักงานทำความสะอาด 10 คนจาก 29 คนมีแอนติบอดี

          ผู้เขียนรายงานระบุว่ายังไม่ชัดเจนว่าการติดเชื้อที่สูงขึ้นในหมู่พนักงานบางคนเป็นการรับเชื้ออย่างไร

          ศจ.ทิม คุก ผู้เชี่ยวชาญด้านวิสัญญีแห่งมหาวิทยาลัยบริสตอล มีความเห็นว่า การที่ผู้ที่ทำงานให้ผู้ป่วยหนักมีความเสี่ยงต่ำกว่าเจ้าหน้าที่ในส่วนอื่น ๆ ของโรงพยาบาล เพราะเป็นแผนกที่มีความระมัดระวังและการรักษาความสะอาด การฆ่าเชื้อเป็นพื้นฐานสำคัญ ทั้งยังมีความพร้อมเรื่องเครื่องมือ อุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ โดยเฉพาะชุด PPE

...