ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 19.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน 2563
อดีตผอ.WTO มองการชุมนุมเป็นพื้นที่ให้ระบาย แต่ต้องสร้างสรรค์-ช่วยกันแก้ไขปัญหา
การชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย. นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการอังค์ถัด และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก หรือ (WTO) ในฐานะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ มองว่า เมื่อดูทั่วโลกไม่เห็นประเทศไหนที่จะไม่มีการชุมนุมประท้วง อาจจะมีการประท้วงปิดประเทศมากไปหรือน้อยไป หรือประท้วงนโยบายด้านเศรษฐกิจ ทั้งยุโรปหรืออเมริกาก็มีปัญหาทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แต่รวมถึงเรื่องสังคมด้วย ดังนั้นต้องระมัดระวังเรื่องการประท้วง แต่ถือเป็นธรรมชาติในสถานการณ์แบบนี้ที่ทุกคนรู้สึกเดือดร้อน และอยากแสดงออก ดีที่สุดคือให้แสดงออก แต่ต้องสร้างสรรค์ เวลานี้ไม่มีที่ไหนดีในโลก แต่ถ้าจะให้ดีขึ้น พวกเราต้องช่วยกัน จะให้แก้ไขอะไรและอย่างไรก็ออกมาพูดได้เพื่อนำเสนอรัฐบาลให้แก้ไข จึงเรียกว่าสร้างสรรค์ และการชุมนุมมองว่าเป็นพื้นที่ที่ให้ทุกคนระบาย เพราะพวกเราก็ถูกกดดันทุกคน
ผบ.ตร.ย้ำไม่ใช้ความรุนแรง ดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม 19 ก.ย.นี้
การนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19 กันยายน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า วันนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ ต้องดูที่หน้างานก่อนว่าถ้ามาแล้ว จะปลอดภัยหรือไม่ เพราะมีปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัย แต่ถ้าสิ่งไหนเป็นส่วนของเขาเราก็ต้องอนุญาตเขาไป โดยการยื่นเรื่องเพื่อขออนุญาตนั้น จะต้องทำภายใน 24 ชั่วโมง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยื่นเรื่องใดๆเข้ามา
ขณะที่นายกรัฐมนตรีกำชับให้เจ้าหน้าที่อดทนเพียงอย่างเดียว อย่าใช้ความรุนแรง ส่วนการประเมินสถานการณ์ เบื้องต้นเท่าที่ได้รับรายงานจากฝ่ายการข่าวจะมีการชุมนุมไม่เกิน 2 วัน ผบ.ตร.ยืนยันว่าจะไม่มีการใช้แผนกรกฎ 52 เพราะไม่นิยมใช้ความรุนแรงต้องอดทน อย่าไปใช้ความรุนแรง
ด้านมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่อนุญาตให้กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมใช้พื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จัดกิจกรรมได้จนกว่าจะได้มีการปฏิบัติตามประกาศโดยถูกต้องซึ่งแนวทางในการจัดกิจกรรม ชุมนุมทางการเมืองของนักศึกษาทุกกลุ่ม ในพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น กำหนดขึ้นเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในเรื่องสิทธิ เสรีภาพ และความรับผิดชอบ ภายในขอบเขตของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และการเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างตามระบอบประชาธิปไตย โดยควบคู่กับการดูแลสวัสดิภาพ ความปลอดภัยของนักศึกษา เพื่อให้การใช้ประกาศนี้เป็นไปโดยเสมอภาคสำหรับนักศึกษาทุกกลุ่ม
“สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ” ยืนยัน ไม่เคยแทรกแซงการเมืองไทย ย้ำจุดยืนประชาธิปไตย
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีเว็บบล็อกซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยที่ถ่ายไว้เมื่อหลายปีก่อนขณะดำรงตำแหน่งนั้น ทางสถานทูตขอชี้แจงว่า เอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯทุกคนได้พบปะกับคนไทยในหลากหลายภาคส่วนอยู่เป็นประจำ มิใช่เพียงแต่นักเรียนนักศึกษาและเยาวชนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบุคคลในรัฐบาล กองทัพ ภาคธุรกิจ และผู้นำในภาคส่วนอื่นๆด้วยการพบปะเช่นนี้มิได้แสดงถึงการสนับสนุนมุมมองหนึ่งมุมมองใด
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ มิได้ให้เงินทุนหรือให้การสนับสนุนอื่นใดแก่การประท้วงใดๆในประเทศไทย สหรัฐฯมิได้สนับสนุนบุคคลหรือพรรคการเมืองใดหากแต่เราสนับสนุนกระบวนการประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม ในฐานะมิตรประเทศของไทย เราสนับสนุนให้ทุกฝ่ายดำเนินการใดๆด้วยความเคารพและระมัดระวังต่อไป ตลอดจนมีส่วนร่วมในการพูดคุยอย่างสร้างสรรค์ถึงแนวทางในการที่ประเทศจะก้าวต่อไปข้างหน้า
เคส'ผู้ต้องขังติดโควิด' มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง-ต่ำ 1,004 คน ผลตรวจ 570 คนเป็นลบ
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค เปิดเผยผลการตรวจผู้สัมผัสผู้ต้องขังชายที่พบการติดเชื้อขณะกักกันก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำรวม 1,004 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 120 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 884 คน ส่งตรวจ 570 คน ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ที่เหลืออยู่ระหว่างรอผล แต่ประชาชนจะต้องไม่ประมาท สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่างไม่น้อยกว่า 1 - 2 เมตรหรือ 1 - 2 ช่วงแขน หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดหรือการระบายอากาศเป็นระบบปิด ให้สแกนคิวอาร์โค้ด “ไทยชนะ” ทุกครั้งที่เข้า-ออกสถานที่ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ขณะนี้สถานการณ์ทั่วโลกยังคงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนในเอเชียพบผู้ป่วยต่อเนื่องในหลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศอินเดียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 95,529 คน และประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เมียนมา พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ยังคงเข้มมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองป้องกันโรคตามแนวชายแดน และโรงพยาบาลมีความพร้อมทั้งบุคลากร อุปกรณ์ป้องกัน ยาและเวชภัณฑ์พร้อมให้การดูแลรักษาหากพบผู้ติดเชื้อ
จีน อนุมัติให้ทดลองวัคซีนโควิด-19 แบบพ่นจมูก
มหาวิทยาลัยฮ่องกง รายงานว่า การทดลองทางคลินิกของวัคซีนแบบสเปรย์พ่นจมูกเพื่อรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ซึ่งพัฒนาร่วมกันโดยภาควิชาจุลชีววิทยา ของมหาวิทยาลัยและสถาบันในแผ่นดินใหญ่นั้น ได้รับการอนุมัติจากทางการจีนแล้ว วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ชนิดฉีดพ่นจมูกตัวแรกที่ได้รับการอนุมัติโดยสำนักบริหารเวชภัณฑ์แห่งชาติจีน (NMPA) สำหรับการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ วัคซีนตัวนี้ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 5 เทคโนโลยีวัคซีนที่จะมีการประเมินผลต่อไปโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หุ้นไทย ต่ำกว่า 1,300 จุด ปัจจัยการเมืองสหรัฐฯ-ราคาน้ำมันดิบกดดัน
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปิดลบที่ 1,290.89 จุด ลดลง 2.51 จุด มูลค่าการซื้อขายรวม 42,183.57 ล้านบาท โดยมีปัจจัยการเมืองสหรัฐฯและราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานยอดสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด ดัชนีนิกเกอิปิดที่ 23,235.47 จุด เพิ่มขึ้น 202.93 จุด
ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง จากที่เคลื่อนไหวแดนบวกในช่วงเปิดตลาดตามทิศทางดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ นักลงทุนกลับมาระมัดระวังการซื้อขาย เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ ดัชนีฮั่งเส็งปิดวันนี้ที่ 24,313.54 จุด ลดลง 155.39 จุด
ผช.ผบ.ตร.ยืนยันทำหน้าที่สุจริต กรณีไม่เห็นแย้งคำสั่งอัยการคดี“บอส อยู่วิทยา”
พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฎิเสธที่จะให้ความเห็นเมื่อถูกถามว่ามีรายชื่อปรากฏในผลสอบรายงานคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ชุดของนายวิชา มหาคุณ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญานายวรยุทธ ที่เสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา
พล.ต.ท.เพิ่มพูน ยืนยันว่า ที่ผ่านมาได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการทำหน้าที่ไปหมดแล้ววันนี้จึงไม่มีอะไรจะพูดอีก และคงไม่สามารถให้รายละเอียดทั้งหมดได้ เพราะทุกอย่างทำไปตามหน้าที่ พร้อมยืนยันว่าส่วนตัวไม่เครียด เพราะความสุจริตเป็นเกราะกำบังกาย
ดีอีเอส ย้ำ มัลแวร์โจมตีรพ.สระบุรี มาจากยุโรป
การโจมตีระบบฐานข้อมูลของโรงพยาบาลสระบุรี พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผู้บังคับการข่าวกรองยาเสพติด หัวหน้าเพื่อประสานความร่วมมือกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ยืนยันว่า มัลแวร์ที่โจมตีระบบฐานข้อมูลของโรงพยาบาลสระบุรี มาจากต่างประเทศในฝั่งทวีปยุโรป เป็นลักษณะส่งต่อข้อมูลหลายขั้นตอนจนมาถึงโรงพยาบาลสระบุรี
ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจากตำรวจ ทหาร กระทรวงดีอีเอส อยู่ระหว่างลงพื้นที่สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแกะรอยหาต้นตอของมัลแวร์ดังกล่าวและลักษณะการทำงานของมัลแวร์ ยอมรับว่า พบข้อมูลโรงพยาบาลรัฐและบริษัทเอกชนบางแห่ง ถูกแฮกข้อมูลคอมพิวเตอร์เรียกค่าไถ่ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งบางแห่งได้จ่ายเงินไปแล้วเพื่อเรียกคืนข้อมูลที่ถูกบล็อก แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ถูกแฮกข้อมูลช่วงเวลาเดียวกับโรงพยาบาลสระบุรีหรือไม่, ผู้ก่อเหตุเป็นบุคคลหรือกลุ่มเดียวกันหรือไม่ และยังไม่สามารถยืนยันจำนวนผู้เสียหายได้
พล.ต.ต.พันธนะ ยังยอมรับว่า กรณีโรงพยาบาลสระบุรี เป็นเรื่องใหม่ที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับมาดำเนินการ แม้จะเคยเกิดเหตุลักษณะนี้ในต่างประเทศมาแล้ว จากนี้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องแสวงหาความร่วมมือ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์มากขึ้น พร้อมเห็นว่า การจัดตั้งกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หน่วยงานใหม่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะช่วยรองรับภารกิจด้านปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนกระจายอยู่หลายพื้นที่และมากขึ้น ได้
สหรัฐฯขอกลุ่มอาเซียนยกเลิกทำการค้ากับบริษัทจากจีน
กลุ่มอาเซียน จัดการประชุมสุดยอดของรัฐมนตรีต่างประเทศ ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีนายฟาม บินห์มินห์ รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม ทำหน้าที่ประธานในการประชุม การประชุมวันนี้ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เข้าร่วมประชุมด้วย นายปอมเปโอ เสนอแนะกลุ่มอาเซียนให้เลิกติดต่อค้าขายกับบริษัทจีนที่เข้าไปช่วยกองทัพจีนก่อสร้างเกาะเทียมหลายแห่งในทะเลจีนใต้
นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน กล่าวว่า การที่สหรัฐฯกำลังกระตุ้นให้ประเทศต่างๆในภูมิภาคเผชิญหน้ากัน แม้ว่าจีนและกลุ่มประเทศอาเซียน จะพยายามแก้ไขกรณีข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ผ่านการปรึกษาหารือก็ตาม
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯยกระดับการดำเนินนโยบายในทะเลจีนใต้เมื่อเดือนก.ค. ซึ่งจีนและหลายชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อ้างสิทธิครอบครองพื้นที่ดังกล่าว โดยสหรัฐฯระบุว่าการที่จีนอ้างสิทธิในทรัพยากรนอกชายฝั่งซึ่งกินพื้นที่เกือบทั้งน่านน้ำของทะเลจีนใต้นั้น เป็นความไม่ชอบธรรมทางกฎหมายโดยสิ้นเชิง
การประชุมครั้งนี้มีขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่กองทัพจีนซ้อมรบโดยใช้กระสุนจริงและยิงขีปนาวุธในแถบทะเลจีนใต้ ขณะที่ เอเอฟพี ตั้งข้อสังเกตว่า การแสดงความเห็นของนายปอมเปโอ ลดความสำคัญของการประชุมสุดยอดของรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มอาเซียน ทำให้ที่ประชุมอาเซียนกลายเป็นเวทีตอบโต้กันระหว่างสองมหาอำนาจคือ สหรัฐฯและประเทศจีนในหลายๆเรื่อง ตั้งแต่เรื่องปัญหาข้อพิพาททางการค้าจนถึงปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ด้านน.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ออกคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือ Executive Order ให้บริษัทของสหรัฐฯ เลิกทำธุรกิจกับธุรกิจจีนและให้ลงทุนในประเทศ ใช้สินค้าในประเทศมากขึ้นนั้น สนค.ประเมินว่า การให้สัมภาษณ์ของนายทรัมป์ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการหาเสียง ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ และไม่มีการออกมาตรการที่เป็นรูปธรรมแนวคิดการแยกตัวของสหรัฐฯ จากจีน สะท้อนเป้าหมายเพื่อลดการพึ่งพาตลาดจีน ซึ่งจะเป็นเป้าหมายหลักของสหรัฐฯ ต่อไปไม่ว่าพรรคเดโมเเครตหรือรีพับลิกันจะชนะการเลือกตั้ง
ในส่วนของประเทศไทย จะต้องดำเนินนโยบายการค้าอย่างระมัดระวังและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความท้าทาย โดยการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจผ่านความร่วมมือในระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาคที่สิทธิประโยชน์และเป็นแต้มต่อทางการค้าและการลงทุน