นายพาสคาล โซริโอต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทแอสตราเซเนกา บริษัทยาอังกฤษ เปิดเผยว่า ทีมวิจัยของบริษัทแอสตราเซเนกา ซึ่งวิจัยวัคซีนรักษาโรคโควิด-19 ร่วมกับมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด จะทราบผลทดลองก่อนสิ้นปีนี้ว่า วัคซีนนี้ใช้ป้องกันโรคโควิด-19 ได้จริงหรือไม่ หากบริษัทได้รับอนุญาตให้เดินหน้าโครงการทดลองวัคซีนเฟส 3 หรือเฟสสุดท้ายต่อไป หลังพักการทดลองชั่วคราวในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ทีมวิจัยของบริษัทแอสตราเซเนกาหยุดพักการทดลอง หลังพบว่า อาสาสมัครคนหนึ่งในอังกฤษมีอาการป่วยหลังฉีดวัคซีนแล้ว มีผลข้างเคียง คือพบการอักเสบของไขสันหลัง ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบประสาท ซึ่งนับว่า เกิดขึ้นน้อยมาก นายโซริโอต์ ระบุว่า เป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีการหยุดพักการทดลองชั่วคราว เมื่อเกิดผลข้างเคียง ถึงแม้ว่าองค์การอนามัยโลก(WHO) เคยยกตัวอย่างวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกาว่า อยู่ในอันดับต้นๆของโลกในแง่ของความคืบหน้าในการวิจัยวัคซีนมากที่สุด และได้รับความสนใจจากคนทั่วโลก
สำหรับเรื่องอาการป่วยของอาสาสมัครที่ฉีดวัคซีน นายโซริโอต์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดต่างๆ ของอาสาสมัครรายนี้ ว่ามีอาการไขสันหลังอักเสบอยู่ก่อนแล้วหรือไม่ และยังไม่ชัดเจนว่า จะต้องเข้ารับการตรวจเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะนี้แพทย์ได้ส่งผลตรวจโรคของคนไข้รายนี้ ให้กับคณะกรรมการความปลอดภัยด้านวัคซีน ที่เป็นคณะกรรมการอิสระเพื่อพิจารณา หลังจากนั้น คณะกรรมการฯจะแจ้งกลับให้บริษัทฯทราบว่า จะสามารถเดินหน้าการทดลองวัคซีนได้ต่อไปหรือไม่
Cr: Reuters