ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันพุธที่ 9 กันยายน 2563

"แอสตราเซเนกา"ระงับทดลองวัคซีนโควิด-19 ผู้ร่วมทดลองป่วยไม่รู้สาเหตุ

         บริษัทแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ ประกาศระงับการทดลองใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังจากผู้เข้าร่วมทำการทดสอบคนหนึ่งป่วยโดยไม่สามารถอธิบายสาเหตุได้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่า การวางจำหน่ายวัคซีนต้านโรคโควิด-19 อาจจะถูกเลื่อนออกไปนอกจากนี้ การตัดสินใจระงับการทดลองยังมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทีมนักวิจัยมีเวลาในการตรวจสอบข้อมูลด้านความปลอดภัย บริษัทจะยังคงรักษาความโปร่งใสและตรงไปตรงมาในการทดลองวัคซีน

         การทดลองวัคซีน AZD1222 ที่บริษัทแอสตราเซเนกากำลังพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด มีการคาดหมายว่าจะประสบความสำเร็จ เมื่อต้นเดือนก.ย.แอสตราเซเนกา เปิดเผยว่า บริษัทได้เริ่มลงทะเบียนชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่จำนวน 30,000 คน สำหรับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เฟส 3

10 ชาติอาเซียน ประชุมทางไกล หารือโควิด-19 และข้อพิพาททะเลจีนใต้

          รัฐมนตรีการต่างประเทศของ 10 ประเทศสมาชิกสมาคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียนเริ่มการประชุมประจำปีในวันนี้ (9 ก.ย.) ไปจนถึงวันเสาร์ (12 ก.ย.) วาระการประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ข้อพิพาทเรื่องดินแดนในทะเลจีนใต้และผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา การประชุมในครั้งนี้มีกำหนดเดิมคือเมื่อเดือนสิงหาคม ที่ฮานอย เวียดนาม แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศทำได้ยาก จึงต้องเปลี่ยนเป็นการประชุมทางไกลในครั้งนี้

           สำหรับร่างของแถลงการณ์ที่จะมีการประกาศในวันสุดท้ายของการประชุม จะเป็นการรับทราบผลกระทบที่รุนแรงและเกิดขึ้นในหลายมิติจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงัก และทำให้เกิดการว่างงาน แต่รัฐมนตรียังมีความเห็นในแง่ดีเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความกล้าหาญและการพึ่งพาตนเองของประเทศสมาชิกและการสนับสนุนจากพันธมิตรนอกอาเซียน

           ส่วนประเด็นที่เกี่ยวกับข้อพิพาททะเลจีนใต้ ร่างแถลงการณ์ระบุว่า รัฐมนตรีการต่างประเทศมีความกังวลเกี่ยวกับการถมที่ดิน กิจกรรมและเหตุการณ์ร้ายแรงในทะเลจีนใต้ ซึ่งทำลายความไว้วางใจและความเชื่อมั่น ทั้งเพิ่มความตึงเครียดและอาจทำลายสันติภาพความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค

          ในประเด็นโรฮิงญาจำนวนมากกว่า 700,000 คนที่หลบหนีการกวาดล้างจากรัฐยะไข่ เมียนมาไปบังกลาเทศ ยังมีความล้มเหลวในการส่งกลับประเทศ เนื่องจากชาวโรฮิงญากังวลกับการกลับมาถิ่นฐานเดิมจะไม่มีความปลอดภัย

           เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมรัฐมนตรีการต่างประเทศในวันเสาร์ จึงจะเป็นการประชุมที่เกี่ยวข้องกับประเทศคู่ค้าในอาเซียน เช่น ญี่ปุ่น จีน และ สหรัฐฯ ต่อไป

ก.พาณิชย์ ทำลายของก๊อบปี้กว่า 7.8 แสนชิ้น มูลค่า 350 ล้าน

          สำหรับปีนี้มีของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาคดีถึงที่สุดจะต้องนำมาทำลาย 785,376 ชิ้น ประกอบด้วย สินค้าหลายประเภท เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า เข็มขัด รองเท้า นาฬิกา โทรศัพท์มือถือ แผ่นซีดี/วีซีดี แว่นตา เครื่องสำอาง หมวก ผ้าห่ม เป็นต้น โดยเป็นของกลางจากการจับกุมและตรวจยึดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  293,310 ชิ้น กรมศุลกากร 285,842 ชิ้น และกรมสอบสวนคดีพิเศษ 206,224 ชิ้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายโดยรวมประมาณ 354 ล้านบาท

          นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า การคุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและจะดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ขอความร่วมมือประชาชนไม่ส่งเสริมการซื้อขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หากพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดสามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่กองป้องปราม การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 02-547-4702