เร่งตามจับ! 2 วินจยย.เถื่อน แถววัดหนามแดง เปิดศึกดวลปืน
เหตุดวลปืนกันระหว่างวินรถจักรยานยนต์เถื่อน 2 วิน ที่จับจองพื้นที่หน้าห้างเปิดใหม่ ถนนหลังวัดหนามแดง ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ แล้วทับเส้นทางกัน ช่วงเย็นวานนี้ทำให้คนที่กำลังมาจับจ่ายใช้สอยในตลาดที่ตั้งอยู่หน้าห้างและแม่ค้าที่ขายของอยู่ในตลาดหน้าห้างวิ่งหนีตายกันเข้าไปในห้าง
พ.ต.ต.สมเกียรติ นาเจริญ สว.(สอบสวน) สภ.บางแก้ว กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นและตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบว่า วินแรก ซึ่งเป็นวินใหม่ตั้งอยู่หน้าห้าง มีนายเจต ปอเจริญ อายุ 55 ปี เป็นหัวหน้าวิน ส่วนอีกวินที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม มีนายประยูร โหงอ่ำ อายุ 47 ปี เป็นหัวหน้าวิน อยู่ห่างกันเพียง 50 เมตร
ก่อนเกิดเหตุลูกวินนายเจต ที่ตั้งอยู่หน้าห้างได้ขับรถจักรยานยนต์รับจ้างผ่านหน้าวินของนายประยูร ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามและรับผู้โดยสารไป ทำให้นายประยูร ไม่พอใจ จึงเดินข้ามมาที่วินนายเจต เพื่อต่อว่าลูกวินไม่สมควรไปรับผู้โดยสารที่หน้าวินตัวเอง ทำให้นายเจต ไม่พอใจและเกิดโต้เถียงท้าทายกัน หลังจากที่นายประยูรเดินกลับออกมาประมาณ 30 เมตร เกิดเสียงปืนดังขึ้น จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายที่พกอาวุธปืนติดตัวยิงใส่กันหลายนัด หลังเกิดเหตุทั้ง 2 ฝ่าย ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปคนละทาง ตำรวจรวบรวมหลักฐานออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่าย มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว และชุดสืบสวน ภจว.สมุทรปราการ แบ่งกันออกตามตัวทั้ง 2 ฝ่าย มาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 Super ตกอยู่บนถนนทางเข้าห้าง 7 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนชาวบ้าน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีชาวบ้านได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจากฝั่งวินใหม่ที่อยู่หน้าห้างก่อน จากนั้นก็มีคนของวินเก่ายิงสวนกลับไป
CR: เฟซบุ๊กข่าวสารเมืองปราการ v2
จับแก๊งมั่วสุมยาฯ จัดปาร์ตี้ที่รีสอร์ตในจ.กาญจนบุรี
การจับกุมกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมจัดงานปาร์ตี้ในพื้นที่จ.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ทรัพย์ละออ ผกก.สภ.ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี ได้รับรายงานจากชุดสืบสวนว่า มีกลุ่มคนมาเปิดห้องพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีพฤติการณ์น่าสงสัยมั่วสุมยาเสพติด จึงสั่งการให้นำกำลังลงตรวจสอบพื้นที่และสืบสวนจับกุม ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักให้เช่า มีกลุ่มวัยรุ่นชายหญิง เข้ามาพักตั้งแต่คืนวันที่ 6 ก.ย. จนเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ทั้งหมดยังอยู่ในบ้าน เมื่อพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แสดงอาการพิรุธและต้องสงสัย โดยตำรวจแสดงตนขอตรวจค้น พบในบ้านมีวัยรุ่น 17 คน จัดปาร์ตี้มั่วสุมเสพยาเสพติด ตรวจค้นพบของกลาง ยาเคและยาอีจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ยี่ห้อ GLOCK 19 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนอีกจำนวน 15 นัด จากการตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดจำนวน 13 คน จึงนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนอีก 4 คน ตรวจไม่พบสารเสพติด เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวไป
ศาล สั่ง'แพน-สุรเกียรติ'เมาแล้วขับ จำคุก 3 เดือน ปรับ 1.1หมื่น
เมาแล้วขับ กรณี "แพน-สุรเกียรติ บุนนาค" อายุ 27 ปี เมาแล้วขับรถเก๋งชนกระบะ บริเวณใต้ทางด่วนวัดบัวขวัญ ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี แต่ไม่สามารถคุยกับคู่กรณีได้ คู่กรณีต้องโทรศัพท์เรียกตำรวจช่วยเจรจา แต่ปรากฏว่ากลับต่อสายหาพ่อที่อ้างเป็นทหารยศ พล.อ. ให้คุย เจอขู่ย้ายทั้งโรงพักหากไม่ช่วยเหลือ สุดท้ายถูกใส่กุญแจมือ พาไปยังโรงพัก ทำการเป่าวัดแอลกอฮอล์สูง 196 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก่อนควบคุมตัวส่งศาลแขวงนนทบุรี ฟ้อง 2 ข้อหา 1. เมาแล้วขับ 2. ขับรถประมาทเป็นเหตุให้เสียทรัพย์
ศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี ได้มีคำพิพากษาลงโทษ นายสุรเกียรติ ด้วยการเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 11,000 บาท สั่งจำคุก 3 เดือน โทษจำคุกให้รอลงอาญา 3 ปี และให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง และให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติเห็นสมควรเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ให้จำเลยเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับกฎระเบียบวินัยจราจร และผลของการเสพสิ่งมึนเมาหรือสิ่งเสพติดที่มีต่อร่างกายและจิตใจเพื่อความปลอดภัยในการขับรถอย่างน้อย 1 ครั้ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29, 30 ให้พักใช้ใบอนุญาตขับรถของจำเลยมีกำหนด 6 เดือนนับตั้งแต่วันที่มีคำพิพากษา แจ้งนายทะเบียนขนส่งจังหวัดทราบ
ตำรวจ ชี้แจงคดีบ่อนพระราม 3 ยังไม่เชื่อคำให้การ คนแสดงตัวรับเป็นผู้จัดเล่นพนัน
พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. ในฐานะ รรท. ผบก.น.5 เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีบ่อนพระราม 3 ว่า ขณะนี้สำนวนการสอบสวนคดีบ่อนพระราม 3 ล่าสุดยังไม่มีการสรุปสำนวนได้ทันในสัปดาห์นี้ เพราะยังมีประเด็นที่ต้องสอบสวนให้เสร็จสิ้น
-คดีฆาตกรรมมีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับและจับกุมได้แล้ว 1 คน
-คดียักย้ายทำลายหลักฐาน ที่มีภาพการขนย้ายโต๊ะพนันและกล้องวงจรปิด สามารถระบุตัวผู้ต้องหาได้ 12 คน ติดตามออกหมายจับและจับกุมมาได้แล้ว 7 คน ที่เหลือกำลังเร่งดำเนินการ
-คดีลักลอบเล่นการพนันมีผู้มาแสดงตัวว่าเป็นผู้จัดให้เล่นการพนัน 1 คน แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การ จำเป็นต้องสอบสวนต่อไป