ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.วันอังคารที่ 8 กันยายน 2563

08 กันยายน 2563, 09:01น.



สศช.รอ ก.คลัง เขียนแผนส่งเสริมการจ้างงาน ก่อนเสนอคณะกก.กลั่นกรอง



          นายดนุชา พิชยนันท์ รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยถึง ความคืบหน้าแนวคิดส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ โดยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน หลังจากที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดโควิด-19 หรือ ศบศ. ได้ผ่านการพิจารณาออกมาแล้ว ขั้นตอนต่อไป กระทรวงการคลัง จะเป็นผู้จัดทำความคิดและรายละเอียดก่อนเสนอกลับมาที่สศช.เพื่อนำเสนอเข้าคณะกรรมการกลั่นกรอง หากผ่านการพิจารณาแล้วจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอีกครั้ง ขณะนี้ พยายามให้รายละเอียดโครงการแล้วเสร็จและผ่านการอนุญาตของครม.ในเดือนนี้ เพื่อให้โครงการสามารถเริ่มดำเนินการได้ทันภายในวันที่ 1 ต.ค.2563 ถึงวันที่ 30 ก.ย.2564 ตามที่กำหนดไว้



คาดปลดล็อก ! โครงการเราเที่ยวด้วยกัน จองห้องพักในภูมิลำเนาตัวเองได้

          ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พิจารณาแนวทางการเพิ่มสิทธิให้คนเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันมากขึ้น นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าททท.เปิดเผยว่า การประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ. กลางเดือน ก.ย. ททท.จะเสนอที่ประชุมปรับเงื่อนไขโครงการ เบื้องต้น อาจมีการปลดล็อกให้คนที่เข้าร่วมโครงการสามารถใช้สิทธิจองห้องพักในภูมิลำเนาของตัวเองได้ จากเดิมกำหนดต้องใช้นอกพื้นที่เท่านั้น กำลังดูความเหมาะสมและต้องหารือหน่วยงานต่างๆ ก่อนว่าจะปลดล็อกได้หรือไม่ และจะรีบสรุปภายใน 2 สัปดาห์นี้



          นายกฯ ขอให้ปรับเงื่อนไขเพื่อดึงคนสูงวัยที่ใช้เทคโนโลยีไม่คล่องและไม่ได้มาร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ สามารถเข้ามาร่วมโครงการได้ง่ายขึ้น เช่น อาจมีการออกคูปอง หรือบัตรพิเศษ อยู่ระหว่างพิจารณา เพราะถ้าทำให้คนทุกกลุ่มเข้ามาใช้สิทธิง่ายกว่าเดิมจะทำให้โครงการเกิดประโยชน์กระจายไปยังคนทุกกลุ่มได้เพื่อกระตุ้นการจองห้องพักให้ถึงโควตา 5,000,000 คืน จากปัจจุบันมีจำนวนคนมาใช้สิทธิเพียง 800,000 กว่าคืน ยังเหลือจำนวนสิทธิอีกกว่า 4,100,000 คืน



         ข้อมูลการใช้สิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค.-31 ส.ค.มีเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแล้ว 2,592 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินส่วนที่ประชาชนจ่าย 1,613.9 ล้านบาท และเงินส่วนที่รัฐช่วยจ่าย 978.1 ล้านบาท มีประชาชนใช้สิทธิเฉลี่ยวันละกว่า 18,000 คืน สัปดาห์นี้จะประชุมร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการสายการบินในประเทศไทย เพื่อหารือความเป็นไปได้ขอให้สายการบินกลับมาทำการบินเพิ่ม ด้วยการเพิ่มความถี่เที่ยวบินและจัดโปรโมชั่นราคาตั๋วจูงใจคนไทยเดินทางมากขึ้น หลังจากได้เห็นตัวอย่างของประเทศจีนที่กลับมาเปิดเที่ยวบินภายในประเทศมากถึงร้อยละ 90 พร้อมทั้งหารือถึงความต้องการอื่นๆว่าสายการบินต้องการให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนส่วนไหนเพิ่มเติมด้วย



สภาอุตสาหกรรมฯ คาดสัญญาณเที่ยวรอบใหม่ ต้องรอปิดเทอม



          นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 4-7 ก.ย.ประเมินได้ว่ามียอดเงินการใช้จ่ายรวม 4 วัน ไม่ต่ำ กว่า 7,000 ล้านบาท หรือกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวให้เติบโตประมาณร้อยละ 10 จากช่วงปกติที่ไม่มีการหยุดยาว แม้จะไม่เป็นตามเป้าหมายที่วางไว้ร้อยละ 20 แต่ถือเป็นทิศทางที่ดีที่คนไทยออกมาเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวเช่นนี้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง หลังจากนี้คือพอหมดช่วงวันหยุดยาวแล้ว ภาคการท่องเที่ยวจะกลับมาเงียบเหงาอีกครั้ง กว่าจะมีสัญญาการฟื้นตัวคงต้องรอช่วงปิดเทอมในเดือนต.ค.ซึ่งมองว่าจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ ส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวตอนนี้จะเป็นคนที่มีงานประจำ ดังนั้น ภาครัฐต้องหันมาจับกลุ่มผู้สูงอายุ หรือกลุ่มเกษียณอายุการทำงานให้มากขึ้นเพราะคนกลุ่มนี้มีวันว่างในช่วงวันธรรมดา เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย




เตือนอย่าแชร์! อธิบดีกรมปศุสัตว์ ยืนยัน หมูปลอดภัย กินได้ อย่าเชื่อข่าวลวง



          นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กระบวนการผลิตเนื้อสุกรของไทย มีมาตรฐานกรมปศุสัตว์รองรับ ทำให้ได้เนื้อสุกรที่มีคุณภาพปลอดภัย ตรวจสอบย้อนกลับได้ ผู้บริโภคสามารถนำไปปรุงสุกและรับประทานได้อย่างมั่นใจ แต่ขณะนี้มีข้อความข่าวลวงที่ส่งต่อกันในทำนองชวนคนงดบริโภค โดยใช้มุกเดิมเรื่องโรคในสุกร และภาพสุกรที่นำมาประกอบน่าจะเป็นของประเทศอื่น เนื่องจาก ตามหลักปฏิบัติของกรมปศุสัตว์แล้ว จะยึดหลักการพื้นฐานด้านการควบคุมและป้องกันโรคสัตว์ตามมาตรฐานสากลอย่างเข้มงวด ของดส่งข้อความทางไลน์และขออย่าหลงเชื่อ คาดว่า อาจเป็นขบวนการปล่อยข่าวเพื่อกดราคาสุกรของพ่อค้าคนกลาง ซ้ำเติมเกษตรกรผู้เลี้ยงในช่วงโควิด-19 เพราะการกล่าวอ้างถึงโรคระบาดสัตว์ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกได้มากขึ้น



 




 



 




 

ข่าวทั้งหมด

X