นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลีย เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ลงนามข้อตกลงจัดซื้อวัคซีนมูลค่ารวม 1,700 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย กับบริษัทซีเอสแอล (CSL) ผู้นำด้านชีวเวชภัณฑ์ของออสเตรเลีย เพื่อผลิตวัคซีน 2 ตัว วัคซีนตัวแรกอยู่ระหว่างการวิจัยโดยบริษัทแอสตราเซนเนกา ร่วมกับ มหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ ตัวที่สองอยู่ระหว่างการวิจัยในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ของ CSL ซึ่งวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย คาดว่า บริษัทแอสตราเซนเนกาจะส่งมอบวัคซีน 3,800,000 เข็มให้กับรัฐบาลออสเตรเลียระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ปีหน้า
นายมอร์ริสัน กล่าวว่า การสั่งซื้อวัคซีน เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนให้ปลอดภัยจากโรคโควิด-19 ทำให้ประชาชนเริ่มมีความหวังมากขึ้นว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะสิ้นสุดลงเมื่อมีการพัฒนาวัคซีนสำเร็จ การวิจัยวัคซีนของบริษัทแอสตราเซนเนกา อยู่ระหว่างการวิจัยวัคซีน AZD1222 ในเฟส 3 หรือเฟสสุดท้ายในสหรัฐฯ อังกฤษ บราซิลและแอฟริกาใต้ หลายฝ่ายมองว่า จะเป็นวัคซีนตัวแรกๆของโลกที่จะวิจัยได้สำเร็จ
ส่วนวัคซีนของ CSL ช่วงปลายปีนี้ จะเริ่มทดลองทางคลินิกเฟส 2 คาดว่า วัคซีนของ CSL จะดำเนินการวิจัยแล้วเสร็จและเริ่มผลิตวัคซีนออกสู่ตลาดโลกได้ในช่วงกลางปีหน้า
สถานการณ์การแพร่ระบาดในออสเตรเลีย โดยเฉพาะรัฐวิกตอเรีย ศูนย์กลางการแพร่ระบาดระลอก 2 เจ้าหน้าที่รัฐวิกตอเรีย เปิดเผยว่า ในรอบ 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพบผู้ป่วยรายใหม่ 41 คน ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยสะสมของออสเตรเลียอยู่ที่ 26,319 คน เสียชีวิต 762 ราย
Cr: Reuters, Infonews