*รำลึก 10ปี สึนามิ/รัสเซียซื้อทองคำสู้คว่ำบาตร/นายกฯญี่ปุ่นให้คำมั่นเร่งปฎิรูปศก.*

26 ธันวาคม 2557, 06:45น.


 *ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.



+++เวลาผ่านไปครบ 10 ปี สำหรับเหตุภัยพิบัติคลื่นยักษ์สึนามิ คลื่นยักษ์ที่ถาโถมไม่เพียงแต่กลืนกินชีวิตผู้คนนับแสน แต่ยังกวาดทำลายเมืองริมชายฝั่งอย่างจังหวัดอาเจะห์จนสิ้นซาก เหลือไว้แต่เศษซากปรักหักพังที่กินพื้นที่เข้าไปในแผ่นดินไกลกว่า 6 กม. วันนี้ หลายพื้นที่ได้รับการฟื้นฟู  แทบจะไม่เห็นร่องรอยของพิบัติภัยครั้งนั้น  แต่สิ่งที่ เจ้าหน้าที่ยังเป็นกังวลแม้เวลาจะผ่านไป 1 ทศวรรษแล้วก็ตามคือ เศษซากขยะปริมาณมหาศาลราว 10 ล้านคิวบิกเมตร ที่ทิ้งไว้ให้เหยื่อที่รอดชีวิตได้ดูต่างหน้า รวมทั้งขยะส่วนใหญ่ที่ไหลลงกลับคืนสู่ทะเล ซึ่งนายคุนโตโร มังคุสุโบรโต หัวหน้าสำนักเยียวยาและฟื้นฟูสิ่งก่อสร้างอาเจะห์เผยว่า การกำจัดขยะจากเศษซากสึนามิที่หลงเหลืออยู่อย่างไม่ถูกวิธี ทำให้สิ่งแวดล้อมถูกทำลายในระยะยาว และหากนำขยะทั้งหมดมากองรวมกันบนพื้นที่ขนาด 10,000 ตร.ม. จะสามารถสุมตัวขึ้นเป็นหอคอยขยะที่มีความสูงถึง 1,000 เมตร



+++สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นดีพี) บอกว่า ในระยะเวลา 3 เดือนหลังสึนามิพัดถล่ม ยูเอ็นดีพีได้เริ่มโครงการรีไซ เคิลขยะมูลค่าถึง 40.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,296 ล้านบาท) พร้อมกับระดมอาสาสมัครชั่วคราว 400,000 คน เพื่อนำซากต้นไม้ ก้อนอิฐ เศษหิน เศษเหล็ก กลับมาใช้เป็นวัสดุก่อสร้างถนน บ้านเรือน รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งโครงการจัดการขยะจากภัยสึนามิของยูเอ็นดีพีสามารถกำจัดขยะได้ราว 1 ล้านคิวบิกเมตร เทียบเท่ากับสระว่ายน้ำโอลิมปิก 400 สระ และได้ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่รัฐบาลเพื่อให้ดูแลสานต่อโครงการดังกล่าวเป็นจำนวนราว 1,300 ราย



+++สึนามิ เกิดขึ้น หลังจาก เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.1แมกนิจูด มีจุดศูนย์กลางนอกชายฝั่งทางตะวันตกของเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย และก่อให้เกิดสึนามิตามมา ถือเป็นแผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดเป็นอันดับ3 นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2443 คลื่นยักษ์สึนามิที่ซัดขึ้นฝั่งที่มีความสูงที่สุดคือ 20 เมตร ในจังหวัดอาเจะห์ ของอินโดนีเซีย มีประชาชนราว 230,000 คน เสียชีวิตจากภัยพิบัติครั้งนี้

 เรียงลำดับประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดจากคลื่นสึนามิ 1.อินโดนีเซีย (167,540 ศพ) 2.ศรีลังกา (35,322 ศพ) 3.อินเดีย (16,269 ศพ) 4.ไทย (8,212 ศพ) 5.โซมาเลีย (289 ศพ) 6.มัลดีฟส์ (108 คน) 7.มาเลเซีย (75 ศพ) 8.เมียนมาร์ (61ศพ) 9.แทนซาเนีย (13 ศพ) 10.บังกลาเทศ (2 ศพ) 11.เซเชลส์ (2 ศพ) 12.แอฟริกาใต้ (2 ศพ) 13.เยเมน (2 ศพ) และ14. เคนยา (1ศพ)



+++ในปี 2557 จำนวนเครื่องตรวจวัดคลื่นสึนามิในมหาสมุทรระดับลึกเพิ่มขึ้นเป็น 9 เครื่อง จำนวนเครื่องมือวัดระดับน้ำทะเลแนวชายฝั่งเพิ่มขึ้นมากกว่า100 เครื่อง เครื่องมือตรวจวัดคลื่นแผ่นดินไหวเพื่อประเมินปัจจัยคลื่นสึนามิเคลื่อนตัวเข้าหาฝั่งในมหาสมุทรอินเดียเพิ่มขึ้นมากกว่า 140 เครื่อง



+++รัสเซียดิ้นรน จากมาตรคว่ำบาตรของนานาชาติที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ มีรายงานว่า รัฐบาลรัสเซียภายใต้การนำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กว้านซื้อ “ทองคำ” จากตลาดโลกเพิ่มอีกเกือบ “19 ตัน” อ้างอิงข้อมูลจากสภาทองคำโลก (World Gold Council)  ทำให้ ขณะนี้รัสเซียมีปริมาณทองคำสำรองในความครอบครองไม่น้อยกว่า 1,188 ตัน ซึ่งถือเป็นระดับการถือครองทองคำที่สูงที่สุดของรัสเซียนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1993 เป็นต้นมา ส่งผลให้ในขณะนี้รัสเซียกลายเป็นประเทศที่ถือครองทองคำสำรองเอาไว้มากเป็น “อันดับที่ 5 ของโลก นักวิเคราะห์มองว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัสเซีย เป็นความพยายามของรัฐบาลปูตินในการปกป้องเสถียรภาพของเศรษฐกิจและเงินสกุล “รูเบิล” ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ตกต่ำในตลาดโลก



+++นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุนเรียกร้องให้ผู้นำภาคธุรกิจ ปรับขึ้นค่าจ้างในลักษณะที่เป็นรูปธรรม เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต นอกจากนี้เขาขอให้ผู้นำธุรกิจใช้ความสามารถของสตรีในทางบวก และเลื่อนตำแหน่งไปสู่ระดับจัดการให้มากขึ้น เขาพูดเรื่องนี้ต่อนักธุรกิจชั้นนำจากสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น(เคดันเรน)ในวันนี้ นายอาเบาะเรียกร้องให้ผู้นำธุรกิจปฏิบัติตามข้อตกลงที่รัฐบาล ผู้นำแรงงานและภาคธุรกิจตกลงกันเมื่อไม่นานมานี้ว่าจะมีการปรับขึ้นค่าจ้างในช่วงฤดูใบใม้ผลิหรือเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า ระบุว่าการสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นจำเป็นที่ภาคธุรกิจจะต้องมีการขึ้นค่าแรงในอนาคต   โดยคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของเขาจะสรุปนโยบายเศรษฐกิจให้แล้วเสร็จในวันเสาร์นี้ เพื่อกระตุ้นการบริโภคและเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น พร้อมให้คำมั่นว่าจะเสนอให้รัฐสภาอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับปีงบประมาณ 2557 และ 2558 เมื่อสภาเปิดสมัยประชุมในช่วงต้นปีหน้า จากนั้น จะปฏิรูปกฏระเบียบในเรื่องเกษตกรรม,การดูแลทางการแพทย์ การจ้างงานและด้านพลังงาน



+++สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ มีพระราชดำรัสเนื่องในวันคริสต์มาส โดยทรงชื่นชมความไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนของเจ้าหน้าที่การแพทย์ และเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ ที่ช่วยเหลือในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสอีโบลา ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่อชีวิตอย่างใหญ่หลวง  ส่วนที่เซียร่าลีโอน นายอาลี คามารา รัฐมนตีกระทรวงที่อยู่อาศัยของเซียร์รา ลีโอน กล่าวว่า รัฐบาลได้ประกาศห้ามประชาชนออกจากเคหะสถาน 3 วันในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอีโบลา ระบุว่า ทั้งชาวมุสลิมและชาวคริสต์ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบพิธีทางศาสนาในมัสยิดและโบสถ์ในช่วงเวลาดังกล่าว ขณะเดียวกันห้างร้าน ตลาดและการคมนาคมที่ไม่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคอีโบลา จะหยุดให้บริการชั่วคราว  หลังรัฐบาลสั่งห้ามไม่ให้มีการจัดงานฉลองเทศกาลคริสต์มาส เพื่อควบคุมโรค  ด้านองค์การอนามัยโลก ระบุว่ามีคนเสียชีวิตแล้วกว่า 7,500 คนในแถบแอฟริกาตะวันตก โดยเซียร์ราลีโอน ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดคือ มีคนติดไวรัสอีโบลาแล้วกว่า 9,000 คนและมีคนเสียชีวิตแล้วกว่า 2,400 คน ส่วนประเทศอื่นๆในแถบนั้นที่พบการแพร่ระบาดของโรคอีโบลาคือ ไลบีเรียและกินี



สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักร นิกายโรมันคาทอลิก ประทานพรแก่ผู้ลี้ภัยชาวอิรัก ณ ค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองอันกาวา ใกล้เมืองเออร์บิล พร้อมเรียกร้องให้ผู้ลี้ภัยชาวอิรักที่จำต้องทิ้งบ้านเรือนอพยพหนีภัยกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอเอส ขอจง ‘ยืนหยัด’ และชาวอิรักเหล่านี้ได้อยู่ในใจของพระองค์ตลอดเวลา พร้อมกับตรัสว่า ชาวอิรักเหล่านี้เหมือนกับพระเยซูที่ต้องถูกบังคับให้ออกจากบ้าน และไม่มีห้องให้หลับนอน ‘ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีให้แก่ท่านเนื่องในวันคริสต์มาสอันศักดิ์สิทธิ์’



+++นักเคลื่อนไหวคนหนึ่งจากกลุ่มเพื่อสิทธิสตรี"ฟีเมน" เปลือยพร้อมกับเขียนข้อความ "พระเจ้าเป็นผู้หญิง" ตั้งแต่เหนือหน้าอกจนถึงลำตัว บริเวณจตุรัสเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกันในวันคริสต์มาสขณะที่ตำรวจวาติกันรุดเข้ารวมตัวสาวผมบลอนด์และยื้อยุดฉุดกระชากเอารูปปั้นพระกุมารเยซูกลับคืนมา เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นหลังจากพระสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เสร็จสิ้นการอวยพรเนื่องในวันคริสต์มาส จากระเบียงของมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ แต่นักแสวงบุญหลายพันคนยังคงปักหลักอยู่ในจตุรัสอันโด่งดัง



+++เกิดพายุหิมะตกหนักในกรุงมอสโกเมื่อวันพฤหัสบดีเป็นเหตุให้เที่ยวบินโดยสารกว่า150 เที่ยวล่าช้า และการจราจรเป็นอัมพาต แต่ สนามบินในกรุงมอสโกทั้ง3 แห่งไม่ได้ปิดให้บริการแต่ได้รับผลกระทบเที่ยวบินล่าช้ามากกว่าร้อยเที่ยวบินต้องประสบปัญหาดีเลย์จากสนามบินโดโมเด โดโวทางตอนใต้ของกรุงมอสโกโดยพายุหิมะ เริ่มตกหนักเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีและสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของรัสเซียแถลงว่า คาดว่าจะมีหิมะตกหนักสูงถึง4 นิ้วในกรุงมอสโกภายในวันเดียวด้านนายกรัฐมนตรีดมิทรีเมดเวเดฟ ของรัสเซีย กล่าวว่าการจราจรที่ติดขัดอย่างหนักนี้ทำให้รัฐมนตรีหลายคนต้องติดอยู่กับสภาพการจรจาและเดินทางมาเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีนัดสุดท้ายของปีนี้สายไปตามๆ กัน 

ข่าวทั้งหมด

X