กรณีที่พบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่าผู้ป่วยยังไม่มีอาการอะไรน่าเป็นห่วง และอยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลราชทัณฑ์
ส่วนการสอบสวนเพิ่มเติม พบผู้สัมผัสกับผู้ป่วยเพิ่มเป็น 708 คน แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 140 คน สัมผัสเสี่ยงต่ำ 568 คน
เมื่อแยกเป็นรายกลุ่ม แบ่งเป็น ที่พำนักพักที่คอนโด มีผู้สัมผัส 6 คน ทั้งหมดตรวจแล้วไม่พบเชื้อ
กลุ่มที่ไปศาลเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม มีผู้สัมผัส 493 คน แบ่งเป็นเสี่ยงสูง 15 คน ตรวจแล้ว 11 คน ไม่พบเชื้อ เสี่ยงต่ำ 478 คน ตรวจแล้ว 146 คน ไม่พบเชื้อ ที่เหลืออยู่ระหว่างรอผลตรวจ และอยู่ระหว่างเฝ้าระวัง 14 วัน
กลุ่มโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีผู้สัมผัส 6 คน ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ อยู่ระหว่างเฝ้าระวัง 14 วัน
กลุ่มทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง มีผู้ต้องขังที่อยู่ร่วมระหว่างต้องกัก 36 คน ตรวจแล้วไม่พบเชื้อฯ รอกักตัวให้ครบตามกำหนด 14 วัน และต้องตรวจซ้ำอีก 2 ครั้ง
กลุ่มที่เป็นเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครเรือนจำ ซึ่งมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 24 คน แยกกักแล้ว อยู่ระหว่างเก็บตัวอย่างส่งตรวจ และเสี่ยงต่ำ 52 คน ให้เฝ้าระวัง 14 วัน โดยปฏิบัติตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
กลุ่มเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีผู้สัมผัส 8 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งหมด โดยเป็นผู้ต้องขังที่นั่งรถโดยสารร่วมกัน ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ
กลุ่มที่ทำงานร้าน 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 3 มีผู้สัมผัส 14 คน เสี่ยงสูงทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลแล็บ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ติดต่อเข้ามารับการคัดกรองที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือประเมินความเสี่ยงได้ที่แอปพลิเคชัน BKK COVID-19 หากมีความเสี่ยง ทางกรุงเทพมหานครจะประสานกลับไป
กลุ่มร้าน 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 5 มีผู้สัมผัสทั้งหมด 55 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 23 คน ตรวจแล้ว 22 คน ไม่พบเชื้อ อีก 1 คน เป็นแรงงานต่างด้าวซึ่งก่อนหน้านี้หลบหนี ขณะนี้ติดตามตัวได้แล้ว ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 32 คน ต้องเฝ้าระวัง 14 วัน
กลุ่มร้านเฟิร์ส คาเฟ่ ถนนข้าวสาร มีผู้สัมผัส 14 คน เสี่ยงสูงทั้งหมด ได้รับการตรวจแล้ว 13 คน ไม่พบเชื้อ ส่วนอีก 1 คน พบว่ามีอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) คือมีไข้ ได้นำส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลกลาง เพื่อตรวจและดูแลรักษา อยู่ระหว่างรอผล ส่วนผู้มารับบริการอื่นๆ ที่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำก็จะดำเนินการประชาสัมพันธ์ว่าหากมีข้อสงสัย สามารถมาขอรับบริการหรือว่าสอบถามเข้ามายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
อธิบดีกรมควบคุมโรค เพิ่มเติมกรณีที่มีข้อสงสัยได้แก่
- ข้อสงสัยว่าติดเชื้อจากที่ไหน ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน
- การแพร่โรค ยืนยันว่าผู้ป่วยไม่มีอาการมาก ประกอบกับเป็นดีเจทำงานกลางคืน คนที่สัมผัสโรคจึงมีจำกัดในระดับหนึ่ง
- ในส่วนของผู้สัมผัสใกล้ชิด ซึ่งได้แก่คนในครอบครัว ผลการตรวจยังไม่มีใครติดเชื้อ
ผู้ต้องขังที่อยู่ร่วมกัน 36 คน ไม่ติดเชื้อ
ที่ศาล ไม่ติดเชื้อ
พนักงานที่ทำงานด้วยกัน ไม่พบการติดเชื้อ
หมายความว่าโอกาสที่จะไปแพร่เชื้อให้คนอื่น หรือผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำโอกาสก็ยิ่งน้อยลงไปอีก
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่า คำแนะนำสำหรับประชาชนตอนนี้จึงแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มแรก คือ ประชาชนที่คิดว่าตัวเองไปอยู่ในสถานที่หรือวันเวลาที่ผู้ติดเชื้ออาจจะไป ก็ไม่ต้องตกใจหรือกังวล ให้โทรสอบถาม 1422 หรือไปขอรับคำปรึกษา ตรวจคัดกรองได้ แต่ต้องมีการให้ประวัติก่อน และถ้าจุดไหนที่มีรถเก็บตัวอย่างเชื้อชีวนิรภัย ก็สามารถไปขอรับบริการได้ และปฏิบัติตัวตามมาตรการควบคุมโรคไปก่อน
กลุ่มที่ 2 สำหรับประชาชนทั่วไป โอกาสที่จะเจอผู้ติดเชื้อหรือมีรายงานผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ก็จะเหมือนกับต่างประเทศที่มีการควบคุมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะมากับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมือง หรือผู้ติดเชื้อในชุมชนที่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการน้อยๆ แต่ประชาชนไม่ต้องตกใจ ตื่นกลัว ขอให้คงมาตรการควบคุมป้องกันโรคเข้มข้นเอาไว้ จากที่ก่อนหน้านี้กรมควบคุมโรคได้สำรวจทุก 14 วัน พบว่าประชาชนการ์ดตก ตอนนี้ก็ขอให้ยกสูง โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า การเว้นระยะห่าง และการล้างมือ อีกส่วนหนึ่งคือสถานประกอบการต่างๆ หรือผู้ที่ดำเนินกิจกรรมทางสังคม ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการหลักและมาตรการเสริมของ ศบค.อย่างเคร่งครัด รวมถึงกำชับผู้ใช้บริการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ดีกว่าปล่อยให้เกิดการติดเชื้อหรือระบาด
....
ภาพจากศูนย์ข้อมูลโควิด, แฟ้มภาพ