*ที่ปรึกษา ผบ.ตร.เผยเหตุรถตกลานจอดรถห้างบางกะปิ พบขวดน้ำติดใต้แป้นเบรค*

25 ธันวาคม 2557, 19:05น.


สาเหตุของรถเก๋งตกอาคารจอดรถที่ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร.(ด้านนิติวิทยาศาสตร์) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดในวันนั้น พร้อมทั้งประสานผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ร่วมตรวจสอบ พบว่า ระบบต่าง ๆ ของรถยนต์ไม่มีความบกพร่อง แต่พบขวดน้ำดื่มขัดอยู่ใต้แป้นเบรค ขณะที่ด้านหัวของขวดน้ำดื่มอยู่บริเวณคันเร่ง จึงทำให้ไม่สามารถเหยียบแป้นเบรคลงได้ และยังเป็นการกดคันเร่งเพิ่มความเร็วของรถมากขึ้นไปอีก โดยมีวงรอบความแรงของเครื่องยนต์ 5000 รอบ



จากการที่ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านพิสูจน์หลักฐานจึงทดลองจำลองเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ ขณะที่การคำนวณความเร็วเฉลี่ยของรถจากจุดชนจนถึงผนังอาคาร ซึ่งมีความยาวของระยะทาง 58.40 เมตร คำนวณเวลาและระยะทางแล้วขณะเกิดเหตุรถคันนี้วิ่งด้วยความเร็วมากกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นไปได้ว่าคนขับพยายามเหยียบเบรค แต่เนื่องจากมีขวดน้ำขัดอยู่จึงเหยียบเบรคไม่ได้ กลับเป็นการเหยียบคันเร่งแทน ซึ่งจากการตรวจสอบภาพวงจรปิดภายในห้างเพิ่มเติม ที่ตอนแรกคาดว่าจะเป็นการฆาตกรรมหรือไม่ ซึ่งพอตรวจสอบแล้วพบว่าผู้เสียชีวิตหลังจากเลิกงานได้เดินออกจากห้างพร้อมกับเพื่อนสาวอีกคนตามปกติ ไม่มีคนติดตามหรือจ้องจะทำร้าย จึงตัดประเด็นเรื่องการฆาตกรรมทิ้ง

ส่วนเรื่องร่องรอยคราบน้ำมันบนพื้นถนนภายในอาคารขณะเกิดเหตุ พบว่าเป็นน้ำมันPower แตกจากการชนรถคู่กรณี ซึ่งไม่มีผลต่อการหักพวงมาลัย เพราะในขณะนั้นพวงมาลัยยังสามารถใช้งานได้ แต่อาจจะไม่ได้มาตราฐานตามปกติ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดเหตุรถตกตึก

นอกจากนี้พล.ต.อ.จรัมพร ยังได้พูดคัยกับนายจุมพล สำเภาพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถึงการก่อสร้างอาคารต่างๆให้มีการสร้างที่ได้มาตราฐาน โดยเฉพาะตัวเหล็กที่สามารถต้านทานแรงกระแทกได้ โดยจะแนะนำให้เจ้าของอาคารต่างๆ ก่อสร้างด้วยเหล็กที่ได้มาตราฐานและแข็งแรง โดยการเสริมคานเหล็กให้มีความแข็งแรงสามารถรับแรงกระแทกจากรถยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุได้ เพราะปัจจุบันนี้ผนังอาคารจอดรถแทบทุกแห่งไม่ได้ถูกออกแบบให้สามารถรองรับแรงกระแทกจากรถที่เกิดอุบัติเหตุ ก่อนที่ในอนาคตจะกำหนดเป็นเทศบัญญัติต่อไป พร้อมทั้งแนะนำให้ประชาชนที่ใช้รถ ไม่ควรนำขวดน้ำหรือรองเท้า ไปอยู่บริเวณพื้นรถด้านผู้ขับขี่ เพราะอาจไปขัดเข้ากับเบรกหรือคันเร่ง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้

ข่าวทั้งหมด

X