การพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ทีมสอบสวนโรค กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม และสำนักอนามัย กทม. กระทรวงมหาดไทย รายงานสรุปผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรณีผู้ต้องขังชายที่อยู่ระหว่างกักกันก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำ ในวันนี้ (4 ก.ย.63) เกี่ยวกับผู้สัมผัสดังนี้
1.ที่คอนโดมีเนียมที่พักอาศัย มีจำนวนผู้สัมผัส 6 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้ง 6 คน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ ไม่พบเชื้อ 5 คน อีก 1 คนเป็นแม่ของภรรยา รอตรวจวันนี้ (4 ก.ย.) ซึ่งทั้งหมดมีมาตรการแยกกักกันและติดตาม 14 วัน
2.ที่ร้านอาหาร 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 3 มีจำนวนผู้สัมผัส 1 คน คือเพื่อนของผู้ติดเชื้อ ถือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง อยู่ระหว่างการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ และมีมาตรการค้นหาผู้ป่วยสัมผัสเพิ่มเติม พร้อมแยกกักกันและติดตาม 14 วัน
3.ที่ศาลอาญา มีจำนวนผู้สัมผัส 492 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 14 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 478 คน ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 10 คน และกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 146 คน เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ไม่พบเชื้อ มีมาตรการสำหรับกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้กักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน ส่วนกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ประสานศูนย์ติดตามเฝ้าระวังอาการ 14 วัน
4.โรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีผู้สัมผัส 6 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำทั้งหมด มีมาตรการติดตามเฝ้าระวังอาการ 14 วัน
5.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง มีจำนวนผู้สัมผัส 40 คน ซึ่งแบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 13 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 27 คน ได้นัดหมายเก็บตัวอย่างวันที่ 8 ก.ย. และ 16 ก.ย. มีมาตรการสำหรับกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงควรมีการแยกกักกัน เพื่อลดโอกาสการแพร่กระจายของเชื้อ สำหรับกลุ่มเสี่ยง สัมภาษณ์เพิ่มอีก 34 คน และติดตามเฝ้าระวังอาการ 14 วัน ขณะที่กลุ่มผู้ต้องขังที่นอนห้องพักเดียวกัน มีผู้สัมผัส 36 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้ง 36 คน การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ผลไม่พบเชื้อทุกคน และนัดหมายเก็บตัวอย่างวันที่ 8 ก.ย.63 และ 16 ก.ย.63 มาตรการควรแยกกักกันจากผู้ต้องขังรายอื่นๆ
6.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีจำนวนผู้สัมผัส 8 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้ง 8 คน มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการทั้ง 8 คน เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผล มาตรการควรแยกกักกันจากผู้ต้องขังแรกรับรายอื่นๆ
รวมจำนวนผู้สัมผัส 589 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 78 คน ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 511 คน
นอกจากนี้อยู่ระหว่างค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมในที่ทำงานร้านอาหาร 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 5 และร้าน First Cafe ที่ถนนข้าวสาร
สำหรับTimeline ของผู้ต้องขังชายรายนี้ ย้อนหลังไป 2 สัปดาห์ คือตั้งแต่ 15 ส.ค.อยู่ที่บ้าน เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ได้เดินทางไปทำงานเป็นดีเจ ที่ร้านอาหาร 3 วัน 2 คืนสาขาพระราม 5 เวลา 22.00-01.00 น. ในวันที่ 17 ส.ค.เดินทางไปทำงานเป็นดีเจ ที่ร้านอาหาร 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 3 เวลา 24.00-02.00 น. วันที่ 18 ส.ค.เดินทางไปทำงานที่ร้าน First Cafe ที่ถนนข้าวสาร เวลา 21.00-24.00น. วันที่ 20 ส.ค.เดินทางไปเป็นดีเจที่ร้านอาหาร 3วัน2 คืนสาขาพระราม 3 เวลา 24.00-02.00 น. วันที่ 21 ส.ค.เดินทางไปทำงานดีเจที่ร้านอาหาร 3 วัน 2 คืน สาขาพระราม 5 เวลา 22.00-01.00น. วันที่ 22,24 ส.ค.เดินทางไปเป็นดีเจที่ร้านอาหาร 3วัน2 คืนสาขาพระราม 3 เวลา 24.00-02.00 น. จะเห็นว่าเป็นการเดินทางไปทำงานใช้เวลาสั้นๆ
ในวันที่ 26 ส.ค.เดินทางไปศาลรัชดา 9.00 น.เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวพบพ่อของผู้ป่วยและผู้ตัองหา 2 คน ต่อมา 10.30 น.ตัดสินคดี เจ้าหน้าที่ 2 คนใส่กุญแจมือพาผู้ป่วยและผู้ต้องหาอีก 2 คน ลงลิฟท์ไปห้องฝากขังใต้ศาลรัชดา อยู่ร่วมกับผู้ต้องขัง 16 คนซึ่งได้รับการตรวจไม่พบชื้อ เวลา 18.00 น.มีรถมารับผู้ป่วยและผู้ต้องขังรวม 16 คน ไปที่ทัณฑสถาน 19.00 น.ถึงเรือนจำ มีการตรวจอาวุธ ตรวจวัดไข้คัดกรองโควิด-19 ก่อนเข้าสถานที่กักกัน 14 วัน
โดยผลตรวจของผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดในขณะนี้ ที่ตรวจไปแล้วทั้งหมดเกือบ 200 คนก็ยังไม่พบผู้ใดติดเชื้อ
ด้านนพ.สฤษดิ์เดช เจริญไชย รองนายแพทย์สาธารณสุขประจำจังหวัด (สสจ.) นนทบุรี กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งว่า มีผู้ป่วยยืนยันมาทำงานในร้านอาหารที่อยู่ในจ.นนทบุรี ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ซึ่งพบว่าร้านดังกล่าวได้ปิดตัวเองแล้ว ไม่มีผู้รับบริการ โดยดีเจมาทำงาน 2 วัน ซึ่งอยู่ในโซนแยกเฉพาะ และสภาพร้านแบ่งเป็น 2 โซนโซนในเป็นผับ และโซนด้านนอกเป็นร้านอาหารมีลมพัดผ่านซึ่งดีเจทำงานโซนด้านนอก และตรวจสอบพบพนักงานของร้านที่มีความเสี่ยงสัมผัสประมาณ 20 คน และผู้รับบริการเสี่ยงสัมผัสประมาณ 3 คน เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง
ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีได้ออกคำสั่งให้ปิดร้าน 3 วัน 2 คืน พระราม 5 เป็นเวลา 3 วัน (4-6 ก.ย.)และมีการทำความสะอาด และเช้าวันนี้ มีการจัดทีมที่ประกอบด้วยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานท้องถิ่นรวมถึง อสม.เข้าไปลงพื้นที่ตรวจสอบและทำความสะอาด รวมถึงเรากำลังติดตามตัวพน้กงานที่มีความเสี่ยงสูงรวมถึงผู้ใช้บริการ จำนวน 23 คนให้มากักตัวที่โรงพยาบาลบางกรวย 2 ซึ่งตามตัวได้แล้ว 16 คนรอผลตรวจ เหลืออีก 7 คนที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯกำลังเร่งติดตามตัว
ส่วนผู้สัมผัสร่วมบ้านเดียวกัน ขอให้เก็บตัวที่บ้าน โดยมีการเฝ้าระวังใกล้ชิด และประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่สงสัยหรือกังวลว่าจะสัมผัสผู้ป่วยรายนี้ในห้วงเวลาดังกล่าว คือ 21ส.ค. และ 23 ส.ค.ให้มาตรวจได้ฟรีที่โรงพยาบาลบางกรวย 2