ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันอังคารที่ 2 กันยายน 2563

02 กันยายน 2563, 13:37น.



“สันติ” เผยจากประสบการณ์ทำงาน ขึ้นอยู่กับนายกฯ พิจารณาตำแหน่ง รมว.คลัง



          นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง การลาออกของนายปรีดี ดาวฉาย จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพราะเกิดความขัดแย้งหรือไม่ว่า ไม่มีปัญหาความขัดแย้งกรณีแต่งตั้งข้าราชการระดับอธิบดี เพราะชื่อก็เป็นไปตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ เมื่อคืนเวลา ประมาณ 20.00น. นายปรีดี ได้โทรมาขอโทษที่ข่าวออกมาในทำนองว่าขัดแย้งกับตนเอง และแสดงความเสียใจและขอบคุณที่ให้ความร่วมมือในการทำงาน แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน สถานการณ์โควิด-19 และกระแสความกดดันของงานจำเป็นต้องมีคนที่แข็งแกร่งมาทำหน้าที่ นายปรีดี กล่าวว่า เคยป่วยอาการเส้นเลือดในสมองหลายปีก่อน แต่ตอนนี้รักษาตัวหายแล้ว เบื้องต้นเข้าใจว่าเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพและความกดดันในการทำหน้าที่ ส่วนข้อสังเกตว่าฝ่ายการเมือง มีการต่อต้านรัฐมนตรีที่เป็นสายข้าราชการหรือผู้เชี่ยวชาญ ก็ยืนยันว่า ตนเองและพรรคไม่ได้มีความขัดแย้งกับนายปรีดี



          ส่วนจะรับหน้าที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเองหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า รัฐมนตรีคนใหม่ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งต้องรู้สภาวะการณ์เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก รวมถึงทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน และสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเริ่มศึกษางานใหม่ จากประสบการณ์ทำงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังถึง 2 คน และรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจอีก 1 คน และทำงานภายใต้ความกดดันมาตลอดระยะเวลา 1 ปีกว่า รวมถึงมีประสบการณ์เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มาแล้ว ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะหารือกัน ซึ่งเรื่องการดูแลบ้านเมืองหากนายกรัฐมนตรีไว้วางใจก็พร้อมทำหน้าที่



“ดอน” ยืนยัน รมว.คลังลาออก ไม่กระทบความเชื่อมั่นของต่างชาติ



         นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และรมว.การต่างประเทศ เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (ศบศ.) กรณีที่นายปรีดี ลาออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติหรือไม่ว่า เรื่องคนป่วยห้ามกันไม่ได้ ก่อนหน้านี้นายชินโซ อาเบะ อดีตนายกฯญี่ปุ่น ประกาศลาออกเพราะปัญหาสุขภาพ เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด เมื่อเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ ยืนยันว่าไม่กระทบความเชื่อมั่นต่างชาติเพราะมีคนอื่นดูแลได้อย่างน้อยนายกฯ ก็ดูแลได้ และในที่ประชุมวันนี้ก็ไม่มีใครตั้งคำถามเรื่องดังกล่าว  



หยุดยาว 4-7 ก.ย. “รองประวิตร” กำชับดูเรื่องจราจร-ยาเสพติด และแรงงานลอบเข้าเมือง



          ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 4-7 ก.ย.พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกฯ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ขอให้ตำรวจทางหลวงประสานกับกระทรวงคมนาคมร่วมตรวจสอบสภาพรถสาธารณะ ระบบแสงสว่างและสัญญาณไฟจราจร รวมทั้งปรับปรุงผิวจราจรในเส้นทางหลักและเส้นทางรอง โดยเฉพาะพื้นที่น้ำท่วมขัง พร้อมทั้งกำชับให้ร่วมกันคุมเข้มบังคับใช้กฎจราจร ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ขับรถเร็ว เมาแล้วขับและการละเลยวินัยจราจร เป็นต้น เพื่อลดอุบัติเหตุและความเสียหายบนถนนที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมกำชับฝ่ายปกครอง ตำรวจและทหารประสานการทำงานร่วมกับกระทรวงคมนาคมและกระทรวงสาธารณสุข สำรวจความพร้อมของแผนและมาตรการต่างๆในการอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและการสัญจรท่องเที่ยว รวมทั้งดูแลความปลอดภัยสถานที่สำคัญและสถานที่ท่องเที่ยว ควบคู่กับมาตรการทางสาธารณสุขเพื่อป้องกันโควิด-19



          รองนายกฯ ขอให้ฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่น นำสถิติการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละพื้นที่มากำหนดมาตรการรองรับให้รัดกุมและปลอดภัยมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม คงเข้มมาตรการเฝ้าระวังการขนย้ายอาวุธสงคราม ยาเสพติดและแรงงานลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายทั้งพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ชั้นในอย่างต่อเนื่อง



เมืองท่าขี้เหล็ก เมียนมา ขยายเคอร์ฟิว 2 เดือน ส่วนเมืองเชียงตุง สั่งปิดตลาด

          สถานการณ์โรคโควิด-19 ในรัฐยะไข่  เมียนมา ยังน่าเป็นห่วง มาตรการสำคัญสำหรับคนที่เดินทางมาจากรัฐยะไข่จะถูกกักตัว 14 วันและให้กักต่อในที่พักอีก 7 วันรวมเป็น 21 วัน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ขยายเคอร์ฟิว ห้ามประชาชนออกนอกบ้านตั้งแต่เวลา 00.00-04.00 น.ยกเว้นเหตุฉุกเฉิน เพิ่มขึ้นอีก 2 เดือน



          ส่วน จ.เชียงตุง มีคำสั่งให้ปิดตลาดในเมืองเชียงตุงจำนวน 2 แห่ง คือตลาด Kengtung และตลาด Myothit (ตลาดอาข่า) โดยให้ปิดตั้งแต่วันที่ 2 - 4 ก.ย. เนื่องจาก มีคนไข้จำนวน 2 คนที่อยู่ในเกณฑ์สงสัยว่าอาจติดเชื้อโควิด-19 ดังนั้นทางการจึงสั่งให้ปิดตลาดชั่วคราวเพื่อลดความแออัดของผู้คน



          นอกจากนี้ รัฐยะไข่ ยังเรียกร้องให้มีการเปิดศูนย์กักโรคเพิ่มในเมืองชิตตะเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ ปัจจุบันมีชาวเมียนมาอยู่ในระหว่างการกักตัว เพื่อสังเกตอาการแล้วประมาณ 600 คน ในศูนย์กักโรค 13 แห่งและโรงแรมอีก 4 แห่งทั่วเมืองซึ่งพบว่ายังไม่เพียงพอ



          ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุขและกีฬาเมียนมา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มในช่วง 24 ชั่วโมง กว่า 100 คน ซึ่งเป็นการเพิ่มมากที่สุด นับตั้งแต่พบการแพร่ระบาดในประเทศ



ชาวญี่ปุ่น เจ็บ 8 คน จากอิทธิพลของไต้ฝุ่นไมสัก 



         ทางการจังหวัดโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น รายงานว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 8 คน เนื่องจาก พายุไต้ฝุ่นไมสัก (Typhoon Maysak) เคลื่อนที่ผ่านเกาะต่างๆ ของจังหวัด ทำให้มีลมแรงถึง 196 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและมีฝนตกหนัก



         สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น เตือนว่า อิทธิพลของพายุทำให้มีลมแรง ทะเลมีคลื่นสูง และทำให้มีน้ำท่วมในบางพื้นที่ เนื่องจากไต้ฝุ่น จะเคลื่อนตัวไปตามทะเลทางตะวันตกของเกาะคิวชู มุ่งหน้าไปทางคาบสมุทรเกาหลี พายุไต้ฝุ่นกำลังเคลื่อนตัวผ่านเกาะคุเมะ จังหวัดโอกินาวา โดยมีลมแรงถึง 252 กิโลเมตรต่อชั่วโมง




 

ข่าวทั้งหมด

X