หลังการประชุมร่วมระหว่างคณะทำงานตรวจสอบคดีทุจริตจำนำข้าวของรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่ระงับยับยั้งทำให้เกิดความเสียหาย นายชุติชัย สาขากร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ และนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้แถลงร่วมกันหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายชุติชัย เปิดเผยว่า คณะทำงานร่วม ยังไม่สามารถสรุปว่าใครจะเป็นคนฟ้องในคดีนี้ เนื่องจากต้องสอบพยานเพิ่มอีก 2คน เนื่องจากยังมีคำให้การที่ขัดแย้งกันอยู่ และจะตรวจสอบหลักฐานเอกสารเพิ่มเติมเพื่อให้มีความครบถ้วนและมีความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือ (จีทูจี) ในสมัยของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้เสร็จในเร็วๆนี้ จากนั้นคณะทำงานของอัยการก็จะเสนอต่ออัยการสูงสุดพิจารณาว่าจะเป็นผู้ฟ้องเองหรือไม่ ก่อนที่จะนำข้อสรุปของทางอัยการสูงสุดมาประชุมอีกครั้งกับป.ป.ช. ทั้งนี้หากทางอัยการสูงสุดมีมติยังไม่สั่งฟ้อง ก็จะให้ ป.ป.ช. เป็นผู้ฟ้องเองเฉพาะในส่วนข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 คือ การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ด้านนายสรรเสริญ เปิดเผยว่า การที่จะต้องสอบพยานบุคคลเพิ่มเติมและหาหลักฐานเพิ่มเติม ก็เพื่อต้องการให้สำนวนที่จะเสนอต่อศาลมีความครบถ้วนก่อนที่จะส่งฟ้อง คาดว่าจะรวบรวมเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.พ. 2558 และเชื่อว่าอสส.จะเป็นผู้สั่งฟ้องเอง