ปธน.สหรัฐฯ ลงพื้นที่เมืองเคโนชา สนับสนุนการทำหน้าที่ของตำรวจ

          ในการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงพื้นที่เมืองเคโนชา รัฐวิสคอนซิน เขาได้กล่าวแสดงการสนับสนุนการทำหน้าที่ของตำรวจในการบังคับใช้กฎหมายในเมืองเพื่อควบคุมความไม่สงบที่เกิดขึ้น ทั้งการส่งเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงจากส่วนกลางไปสนับสนุนการทำหน้าที่ของตำรวจในการควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงภายในเมือง

          ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังไม่ได้ไปเยี่ยมนายจาค็อบ เบล็ค ชายผิวสีซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิง 7 นัดเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ทำให้เป็นอัมพาตตั้งแต่ช่วงเอวลงไป ทั้งไม่ได้พบกับครอบครัวของนายเบล็ค แต่พบกับบาทหลวงที่มารดาของนายเบล็คให้ความเคารพ ซึ่งบาทหลวงเจมส์ วอร์ด ได้ขอให้มีการใช้ความพยายามมากขึ้นในการเปลี่ยนใจผู้คน และนำการเยียวยาและสันติสุขมาสู่ชุมชน

          โดยก่อนหน้านี้ทั้งผู้ว่าการรัฐวิสคอนซิน และนายกเทศมนตรีเมืองเคโนชา ซึ่งต่างก็เป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต ต่างเรียกร้องประธานาธิบดีไม่ให้เดินทางลงพื้นที่เพื่อหลีกเลี่ยงความตึงเครียดที่อาจเพิ่มสูงขึ้น แต่ในระหว่างการลงพื้นที่ เขากล่าวกับผู้สนับสนุนว่าจะเพิ่มงบประมาณให้กับรัฐวิสคอนซิน เพื่อนำไปใช้ในการสร้างเมืองเคโนชาขึ้นมาใหม่ และจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายจากเหตุรุนแรง โดยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2559 ประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับชัยชนะที่รัฐวิสคอนซินไปด้วยคะแนนที่เฉียดฉิว และจำเป็นต้องเร่งหาเสียงสนับสนุนในการเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ โดยเขาได้ตั้งศูนย์บัญชาการชั่วคราว เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ของกองกำลังพิทักษ์แห่งชาติที่เข้ามาเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ ซึ่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่การประท้วงโดยสันติ แต่เป็นการสร้างความหวาดกลัว มีการสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินทั้งสาธารณะและเอกชน และเพื่อเป็นการหยุดความรุนแรงทางการเมือง จะต้องมีการประณามการเคลื่อนไหวต่อต้านตำรวจ ซึ่งเป็นการกระทำที่เป็นอันตราย ทั้งกล่าวด้วยว่า หากเขาไม่เข้ามาแทรกแซง เมืองเคโนชาจะต้องเสียหายอย่างร้ายแรง

          อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ หลีกเลี่ยงการตอบคำถามเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติ โดยกล่าวว่า เขามีความเข้าใจว่าใครก็ต้องพบเจอกับเหตุการณ์นั้นจะต้องมีความรู้สึกที่ไม่ดีและเขารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบกับบาทหลวงซึ่งแม่ของนายเบล็คให้ความเคารพกับภรรยาของเขา ซึ่งเป็นคนผิวสีเพียง 2 คนที่ร่วมในการประชุมโต๊ะกลมของประธานาธิบดีทรัมป์ 

...