ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันอังคารที่ 1 กันยายน 2563

01 กันยายน 2563, 09:18น.


กรมชลฯ เร่งเก็บน้ำฝนอีกระลอก เติมน้ำในเขื่อน ยังรับได้อีกมากกว่าครึ่ง



          ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามสภาพฝนตกหนักทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ และแหล่งน้ำธรรมชาติหลายแห่งเพิ่มขึ้น พร้อมรับฝนตกหนักจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านทางตอนบนอีกรอบเพื่อป้องกันหรือลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำ ควบคู่กับการเก็บกักน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะโฆษกกรมชลประทาน เปิดเผยสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศว่ามีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำรวมกันประมาณ 35,984 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 47 ของความจุอ่าง เป็นน้ำใช้การได้ประมาณ 12,191 ล้าน ลบ.ม. สามารถรับน้ำได้อีกกว่า 40,000 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา(เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 9,753 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 39 ของความจุอ่าง มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกันประมาณ 3,057 ล้าน ลบ.ม.



         สถานการณ์ภาพรวมทั้งประเทศยังมีปริมาณฝนตกต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ คาดว่า ในช่วงเดือนก.ย.- กลางเดือนต.ค.จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติและในอ่างเก็บน้ำได้มากขึ้น กรมชลประทาน เน้นย้ำศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะทั่วประเทศ(SWOC1–17) ให้ตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อน อาคารชลประทาน เครื่องจักร-เครื่องมือ และทางระบายน้ำ กำจัดวัชพืช ผักตบชวา และสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำและการบริหารจัดการน้ำให้มีน้ำกิน-น้ำใช้ตลอดทั้งปี ด้านการเกษตรขอให้ใช้น้ำฝนเป็นหลัก



CR:กรมชลประทาน  



อิสราเอล ประกาศให้ไทยเป็น “ประเทศสีเขียว”ปลอดโควิด-19



          รัฐบาลอิสราเอล ประกาศให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศปลอดภัยจากโรคโควิด-19 และได้รับการยกเว้นจากมาตรการกักตัว 14 วัน สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลได้รวมไทยเป็น 1 ใน 21 ประเทศปลอดภัย หรือ ประเทศสีเขียว หรือ Green Countries ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค.นี้เป็นต้นไป คนที่เดินทางมาจากไทย จะได้รับการยกเว้นจากมาตรการกักตัว 14 วัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอิสราเอล จะประเมินสถานการณ์ทุก 2 สัปดาห์



         การตัดสินใจดังกล่าวเป็นผลจากการวิเคราะห์หลายปัจจัย รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้แรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงานในภาคเกษตรกรรมของอิสราเอล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แรงงานไทยกลุ่มแรก จำนวน 92 คน เดินทางกลับไปที่อิสราเอลอย่างปลอดภัย



         ขณะที่ดร.เมเอียร์ ชโลโม เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย กล่าวว่า ไทยควรได้รับการชื่นชมเรื่องการบริหารจัดการด้านสาธารณสุข ส่งผลให้ปลอดจากการติดเชื้อภายในประเทศเกือบครบ 100 วันแล้ว และนับจากนี้แรงงานชาวไทยสามารถเดินทางกลับเข้าไปทำงานในอิสราเอลได้สะดวกขึ้น




          นายณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าปัจจุบันมี 30 ประเทศ/พื้นที่ ที่อยู่ในรายชื่อประเทศสีเขียวของอิสราเอล ได้แก่ ไทย ออสเตรเลีย อุรุกวัย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ไอร์แลนด์ ไต้หวัน นอร์เวย์ สิงคโปร์ โปรตุเกส อิตาลี จอร์เจีย แคนาดา นิวซีแลนด์ เดนมาร์ก สหราชอาณาจักร ฮังการี ฟินแลนด์ ออสเตรีย เยอรมนี บัลแกเรีย โครเอเชีย สโลวีเนีย จอร์แดน เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย รวันดา ฮ่องกง ไซปรัส และกรีซ นอกจากนี้ อิสราเอลได้จัดให้อีก 187 ประเทศ/พื้นที่ เป็นกลุ่มสีแดง โดยผู้ที่เดินทางไปจากพื้นที่สีแดง จะต้องแยกกักตนเองตามที่ทางการอิสราเอลกำหนด



ไทยสำรองชุด PPE - หน้ากาก N95 พร้อมยาฟาวิพิราเวียร์ รับโควิด-19 



-ดร.ภญ.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ องค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า องค์การเภสัชกรรม สำรองอุปกรณ์ทางการแพทย์ เตรียมรองรับหากโรคโควิด-19 ระบาดรอบสอง เช่น  ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ซึ่งเป็นยาสำคัญตัวหนึ่งที่ใช้ในการรักษา จำนวน 590,200 เม็ด หน้ากาก N95 จำนวน 1,765,010 ชิ้น ชุด PPE แบบ COVERALL จำนวน 445,746 ชุด แบบ ISOLATION GOWN จำนวน 287,759 ชุด  ซึ่งชุด PPE ได้รับความร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชน ผลิตชุด PPE รุ่นเราสู้ จากฝีมือคนไทย สามารถซักใช้ซ้ำได้ 20 ครั้ง ได้ส่งมอบไปยังสถานพยาบาลต่าง ๆ จำนวนกว่า 44,000 ชุด



-ด้านวัคซีน ได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงานเพื่อการวิจัยพัฒนาวัคซีนต้นแบบในหลายรูปแบบ จะทราบผลเบื้องต้นช่วงปลายปีนี้ การที่องค์การเภสัชกรรม มีโรงงานผลิต (วัคซีน) ชีววัตถุ ที่ใช้ผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ในระดับอุตสาหกรรมอยู่แล้วสามารถใช้ต่อยอดประยุกต์สำหรับใช้ในการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้เร็วขึ้น 




สั่งตรวจสอบ วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ยกล็อต คาด 2-3 สัปดาห์ รู้สาเหตุเด็ก 11ขวบ เสียชีวิต



          การตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้ด.ญ.อริสรา หรือน้องครีม สุขขะ อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 เสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก พญ.สุชาดา เจียมศิริ ผู้อำนวยการกองโรคป้องกันด้วยวัคซีน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า น้องครีม มีอาการไข้ต่ำก่อนได้รับวัคซีน เมื่อฉีดไปจึงมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ต้องรอการสอบสวนจากผู้เชี่ยวชาญถึงสาเหตุที่แท้จริง เพราะอาการไข้ที่ปรากฏแสดงว่า อาจมีอาการป่วยด้วยโรคอื่นอยู่ ข้อมูลต่างๆจะนำมาประกอบการพิจารณาของผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนร่วมกับผลการชันสูตรศพ คาดว่า ภายใน 2-3 สัปดาห์ จึงจะทราบผล



          ส่วนเพื่อนนักเรียนที่ได้รับวัคซีนด้วยกันอีก 4 คน ไม่มีปัญหา วัคซีน 1 ขวด สามารถฉีดให้เด็กได้ 5 คน และรอผลตรวจสอบวัคซีนในล็อตเดียวกัน มาประกอบการสอบสวนโรคด้วย



          ด้านนพ.ณรงค์ ถวิลวิสาร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ได้ประสานสำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 4 (สคร.) สระบุรี เข้ามาร่วมสอบสวนโรค เบื้องต้นเป็นการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว ไม่มีโรคประจำตัว ในพื้นที่มีการฉีดวัคซีนดังกล่าวให้นักเรียนหญิงระดับประถมแล้วหลายครั้ง ไม่พบว่ามีรายงานการเสียชีวิต มีผลข้างเคียง เช่น ผื่นแดง เป็นลม แต่ไม่มาก



          ขณะที่ นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่ทั่วโลกใช้กันอยู่ขณะนี้มีอยู่ 2 เจ้าใหญ่ๆ ที่ขึ้นทะเบียนมานานเป็น 10 ปี  ไทยมีการขึ้นทะเบียนมานานแล้ว แต่เพิ่งเข้าบัญชียาหลักแห่งชาติเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่ามีผลข้างเคียงถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนใหญ่ผลข้างเคียงที่พบจะเป็นอาการปวด บวมตรงตำแหน่งที่ฉีด แต่ไม่ได้หมายความว่า อย.มั่นใจว่าวัคซีนจะไม่มีปัญหา เพราะวัคซีนทุกตัว ยาทุกตัวที่มีการอนุญาตให้ใช้แล้วยังต้องติดตามต่อเนื่อง อย.ส่งทีมเข้าไปร่วมตรวจสอบด้วยหากว่าสาเหตุเกิดจากการฉีดวัคซีนจริง จะถือว่าเป็นรายแรกของไทยและเป็นรายต้นๆของโลกต้องรายงานให้องค์การอนามัยโลกทราบ เพราะวัคซีนตัวนี้มีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลกและกำลังขาดแคลนเพราะให้ผลดีในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกและโรคหูดต่างๆ



         ส่วน นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ปกติวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ต้องฉีด 2 เข็ม จากข้อมูลพบว่า เด็กเคยรับวัคซีนเข็มแรกแล้วไม่พบปัญหา



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X