เมียนมา คาดเชื้อโควิด-19 แพร่จากตลาดในเมืองซิตตะเว รัฐยะไข่
กระทรวงสุขภาพและกีฬาของเมียนมา รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 16 คน
-ผู้ติดเชื้อ10 คน ติดภายในประเทศ
-ผู้ติดเชื้อ 6 คน ติดจากการเดินทางกลับเข้าประเทศ
ผู้ติดเชื้อ 12 คน พบที่เมืองย่างกุ้ง อีก 3 คน ที่เขตตะนาวศรี และอีก 1 คนที่รัฐยะไข่ ทำให้ยอดสะสมอยู่ที่ 749 คน กระทรวงขอให้ประชาชนที่เดินทางกลับเข้ารัฐยะไข่ตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.ต้องไปแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ มิเช่นนั้น จะถูกตั้งข้อหาตามกฎหมายบริหารจัดการภัยพิบัติธรรมชาติ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข เชื่อว่า ตลาดในเมืองซิตตะเว รัฐยะไข่ อาจเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดในประเทศ
อ.แม่สอด จับกลุ่มชาวเมียนมา ลอบเข้าไทย พบ 2 คน ไข้สูง 37 องศา
การระบาดของ
ทางการเมียนมา สั่งปิดช่องทางท่าข้ามธรรมชาติกว่า 20 แห่ง ตลอดแนวชายแดน ห้ามขนถ่ายสินค้าทุกชนิด ยกเว้นวัสดุก่อสร้างที่จำเป็นเท่านั้น วันนี้ คณะกรรมการ
สธ.เสนอชะลอนำแรงงานในพื้นที่ระบาดเข้ามาทำงาน
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการ กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เมียนมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่แบบก้าวกระโดด กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ชะลอการนำแรงงานจากพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เข้ามาทำงาน และไม่สนับสนุนการจ้างงานแรงงานผิดกฎหมาย เนื่องจากกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะนำเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ประเทศไทย
“หมอยง” เน้นเพิ่มการตรวจเชื้อในแรงงานต่างชาติและต้องกักตัว
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า พรมแดนธรรมชาติเหนือการควบคุม อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดในประเทศไทยได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเพิ่มอัตราการตรวจ โดยเฉพาะในแรงงานต่างด้าว บุคคลที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การนำไปไว้รวมกันก็สุ่มเสี่ยงต่อการระบาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะสภาพแวดล้อมจะเอื้ออำนวยให้เกิดการระบาด สิ่งที่ถูกต้องจะต้องทำแบบสถานที่กักตัวของรัฐ สำหรับผู้ที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อนจะส่งกลับ การระบาดในสิงคโปร์และมาเลเซียก็เกิดจากแรงงานต่างประเทศ เรามีบทเรียนจากสิงคโปร์และมาเลเซียน่าจะนำมาใช้ในการป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดเกินการควบคุมของประเทศไทย
จ.สระแก้ว เฝ้าระวังช่องทางธรรมชาติ-พื้นที่เสี่ยงที่ตลาดโรงเกลือ
นอกจากแรงงานชาวเมียนมาแล้ว พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12 ประสาน พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว คุมเข้มพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และ พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา สั่งการให้พื้นที่ติดชายแดนกัมพูชาเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะด้านท้ายตลาดโรงเกลือ เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงที่ชาวกัมพูชาจะลักลอบเข้าประเทศไทย มีการตรวจคัดกรองและกำหนดให้รถขนสิ่งสินค้าตามความจำเป็นเดินทางเข้ามาได้ไม่เกินวันละ 50 คัน และชาวกัมพูชาประจำรถไม่เกินคันละ 2 คน ติดตามดูจนกว่าจะกลับออกไป
กต.จัดสถานที่กักตัว นศ.AIT กว่า 40 ชาติ
นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าการจัดสถานที่กักกันเชื้อโรคในรูปแบบเฉพาะองค์กร (Organizational Quarantine) หรือ OQ ของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ว่าได้รับการอนุมัติจาก
สถาบัน AIT ปรับใช้อาคารหอพักนักศึกษาที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณสถาบัน จัดตั้งเป็น OQ มีบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการประจำอยู่ 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลจัดการในด้านต่างๆ ทั้งติดตามอาการ และทำตามแนวปฏิบัติในการดำเนินการสถานที่กักกันรูปแบบเฉพาะองค์กร ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มงวด สถาบัน AIT จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ OQ เองทั้งหมด
การจัดตั้ง OQ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเข้ากักกันเชื้อโรคหลังจากนักศึกษาชาวต่างชาติเดินทางถึงไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษารับทุน ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่จะพิจารณาตรวจลงตราและออกหนังสือรับรองเข้าราชอาณาจักรให้นักศึกษาต่างชาติเหล่านี้เดินทางเข้าประเทศไทย และเมื่อมาถึงแล้วนักศึกษาต่างชาติทุกคนจะต้องเข้ารับการคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ก่อนเดินทางเข้ากักกันเชื้อโรคใน OQ เป็นเวลา 14 วัน