ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม 2563

31 สิงหาคม 2563, 09:04น.



เมียนมา คาดเชื้อโควิด-19 แพร่จากตลาดในเมืองซิตตะเว รัฐยะไข่



กระทรวงสุขภาพและกีฬาของเมียนมา รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 16 คน



-ผู้ติดเชื้อ10 คน ติดภายในประเทศ



-ผู้ติดเชื้อ 6 คน ติดจากการเดินทางกลับเข้าประเทศ



          ผู้ติดเชื้อ 12 คน พบที่เมืองย่างกุ้ง อีก 3 คน ที่เขตตะนาวศรี และอีก 1 คนที่รัฐยะไข่ ทำให้ยอดสะสมอยู่ที่ 749 คน กระทรวงขอให้ประชาชนที่เดินทางกลับเข้ารัฐยะไข่ตั้งแต่วันที่ 10 ส.ค.ต้องไปแสดงตนต่อเจ้าหน้าที่ มิเช่นนั้น จะถูกตั้งข้อหาตามกฎหมายบริหารจัดการภัยพิบัติธรรมชาติ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข เชื่อว่า ตลาดในเมืองซิตตะเว รัฐยะไข่ อาจเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดในประเทศ



อ.แม่สอด จับกลุ่มชาวเมียนมา ลอบเข้าไทย พบ 2 คน ไข้สูง 37 องศา  



          การระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 2 ในเมียนมา ทำให้ไทยต้องเฝ้าระวังการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย  รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่จับกุมชาวเมียนมา ลักลอบเข้ามาบริเวณ อ.แม่สอด จ.ตาก ประมาณ 8 คน ในจำนวนนี้ 2 คน มีไข้สูง 37 องศา แยกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แรงงานเมียนมา ยอมรับว่า ไม่มีงานต้องลักลอบเดินทางเข้ามาหางานในประเทศไทย



          ทางการเมียนมา สั่งปิดช่องทางท่าข้ามธรรมชาติกว่า 20 แห่ง ตลอดแนวชายแดน ห้ามขนถ่ายสินค้าทุกชนิด ยกเว้นวัสดุก่อสร้างที่จำเป็นเท่านั้น วันนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตาก เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางการป้องกันการระบาดและวางมาตรการเฝ้าระวังการขนส่งสินค้าข้ามแดน



สธ.เสนอชะลอนำแรงงานในพื้นที่ระบาดเข้ามาทำงาน



          นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการ กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เมียนมาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่แบบก้าวกระโดด กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ชะลอการนำแรงงานจากพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เข้ามาทำงาน และไม่สนับสนุนการจ้างงานแรงงานผิดกฎหมาย เนื่องจากกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะนำเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ประเทศไทย



“หมอยง” เน้นเพิ่มการตรวจเชื้อในแรงงานต่างชาติและต้องกักตัว



         ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ระบุว่า พรมแดนธรรมชาติเหนือการควบคุม อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดในประเทศไทยได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเพิ่มอัตราการตรวจ โดยเฉพาะในแรงงานต่างด้าว บุคคลที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การนำไปไว้รวมกันก็สุ่มเสี่ยงต่อการระบาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะสภาพแวดล้อมจะเอื้ออำนวยให้เกิดการระบาด สิ่งที่ถูกต้องจะต้องทำแบบสถานที่กักตัวของรัฐ สำหรับผู้ที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อนจะส่งกลับ การระบาดในสิงคโปร์และมาเลเซียก็เกิดจากแรงงานต่างประเทศ เรามีบทเรียนจากสิงคโปร์และมาเลเซียน่าจะนำมาใช้ในการป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดเกินการควบคุมของประเทศไทย



จ.สระแก้ว เฝ้าระวังช่องทางธรรมชาติ-พื้นที่เสี่ยงที่ตลาดโรงเกลือ



          นอกจากแรงงานชาวเมียนมาแล้ว พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12 ประสาน พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว คุมเข้มพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และ พล.ต.ธราพงษ์ มะละคำ ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา สั่งการให้พื้นที่ติดชายแดนกัมพูชาเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะด้านท้ายตลาดโรงเกลือ เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงที่ชาวกัมพูชาจะลักลอบเข้าประเทศไทย มีการตรวจคัดกรองและกำหนดให้รถขนสิ่งสินค้าตามความจำเป็นเดินทางเข้ามาได้ไม่เกินวันละ 50 คัน และชาวกัมพูชาประจำรถไม่เกินคันละ 2 คน ติดตามดูจนกว่าจะกลับออกไป



กต.จัดสถานที่กักตัว นศ.AIT กว่า 40 ชาติ

          นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าการจัดสถานที่กักกันเชื้อโรคในรูปแบบเฉพาะองค์กร (Organizational Quarantine) หรือ OQ ของสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ว่าได้รับการอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขให้เปิดใช้งาน OQ สำหรับนักศึกษาต่างชาติของ AIT กว่า 40 ประเทศที่ทยอยเดินทางกลับมาศึกษาต่อในภาคการศึกษาใหม่ ที่เปิดเรียนแล้วในเดือน ส.ค. โดยนักศึกษาเหล่านี้จัดอยู่ในกลุ่มบุคคลที่เดินทางเข้าประเทศไทยได้ ตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 12) รวมถึงผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาของสถาบันการศึกษาในประเทศไทยที่ทางการไทยรับรอง



          สถาบัน AIT ปรับใช้อาคารหอพักนักศึกษาที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณสถาบัน จัดตั้งเป็น OQ มีบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการประจำอยู่ 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลจัดการในด้านต่างๆ ทั้งติดตามอาการ และทำตามแนวปฏิบัติในการดำเนินการสถานที่กักกันรูปแบบเฉพาะองค์กร ตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเข้มงวด สถาบัน AIT จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ OQ เองทั้งหมด



         การจัดตั้ง OQ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเข้ากักกันเชื้อโรคหลังจากนักศึกษาชาวต่างชาติเดินทางถึงไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษารับทุน ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่จะพิจารณาตรวจลงตราและออกหนังสือรับรองเข้าราชอาณาจักรให้นักศึกษาต่างชาติเหล่านี้เดินทางเข้าประเทศไทย และเมื่อมาถึงแล้วนักศึกษาต่างชาติทุกคนจะต้องเข้ารับการคัดกรองและปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ก่อนเดินทางเข้ากักกันเชื้อโรคใน OQ เป็นเวลา 14 วัน




 

ข่าวทั้งหมด

X