หลังจากนพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ยื่นหนังสือซึ่งเป็นหลักฐานใหม่เรื่องเมาแล้วขับ คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส วันนี้ได้เดินทางเข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ก่อนที่คณะกรรมการ จะสรุปรายงานเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 31 ส.ค.
นพ.แท้จริง เปิดเผยภายหลังการให้ข้อมูลทั้งหมดในวันนี้ว่า คณะกรรมการฯ รับปากว่าจะนำข้อมูลนี้ระบุลงในรายงานที่จะเสนอต่อนายกฯ เพื่อให้นายกฯนำหลักฐานเข้าสู่กระบวนการส่งฟ้องศาลอีกครั้ง โดยส่วนตัว ยืนยันว่ายินดีไปเป็นพยานในชั้นศาล ในข้อหาขับรถในขณะดื่มสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีอายุความ 15 ปี โดยนับจากปีที่เกิดเหตุจนถึงปัจจุบันยังเหลือเวลาอีก 7 ปี ซึ่งหากถึงวันนั้นศาลชี้ขาดว่าอย่างไรก็ยอมรับ แต่หากหลักฐานนี้ถึงมือนายกฯแต่ไม่นำสู่การส่งฟ้องศาล คงจะต้องถามกลับว่าเป็นเพราะเหตุใดและคงต้องถามสังคมว่ายอมรับได้หรือไม่
การให้ข้อมูลในวันนี้ เนื่องจาก คณะกรรมการฯให้ยืนยันอีกครั้งว่าทำไม ไม่เชื่อในพยานหลักฐานเก่า ซึ่งตนเองยืนยันชัดเจนตามหนังสือที่ได้ยื่นไปก่อนหน้านี้ จากการเปิดเวทีเสวนา และทดสอบอาสาสมัครให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละชนิดตามที่อาสาสมัครชอบ แต่จากการทดสอบพบว่า อาสาสมัครหลายคน มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายมากถึง 450-500 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อาสาสมัครยังสามารถขับขี่รถได้ ดังนั้นปริมาณแอลกอฮอล์ของอาสาสมัครมีมากกว่าหลักฐานเก่า ที่ตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ของนายวรยุทธ ที่พบปริมาณ 389 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงมั่นใจได้ว่าไม่เป็นความจริง
ส่วนหลักฐานอัตราแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายจะลดลงร้อยละ 15 ต่อ 1 ชั่วโมง ก็ไม่เป็นความจริง เพราะหลักการคำนวณนี้ใช้ได้กับบางคนเท่านั้น เพราะการลดลงของปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของแต่ละคนมีหลายปัจจัย เช่น น้ำหนัก เพศ อายุ และการรับประทานอาหาร ซึ่งหากจะทำให้เกิดความชัดเจนจริงจะต้องเอาตัวนายวรยุทธ มาทดสอบ ที่สำคัญตนเองไม่อยากให้ใช้หลักฐาน “เมาหลังขับ”เป็นบรรทัดฐาน เพราะต่อไปคนเมาคงจะเต็มถนน เพราะทุกคนก็จะใช้ “เมาหลังขับ”มาเป็นข้ออ้าง