ฐานรากต้องแข็งแรง! กฟผ.สร้างอาชีพ-รายได้ให้ชุมชนรอบเขื่อน-โรงไฟฟ้า

          เข้าสู่ปีที่ 4 ของโครงการ "ผนึกกำลัง Big Brother นำชุมชนสู่กิจการเพื่อสังคม" ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับเครือข่ายพันธมิตรรวม 11 องค์กร เกิดเป็นวิสาหกิจชุมชนยั่งยืนกว่า 200 ชุมชนทั่วประเทศ โดยดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวปาฐกถา ในหัวข้อ "ชุมชนเข้มแข็ง สังคมก้าวหน้า ร่วมพัฒนาอย่างยังยืน"ใจความตอนหนึ่งระบุว่า การทำงานของเครือข่ายจะต้องทำให้ชุมชนซึ่งเสมือนเป็นรากนั่นเติบโต ซึ่งรากที่ว่านี้ไม่ใช่รากหญ้า แต่คือรากต้นไม้ ที่เครือข่ายต้องช่วยกันดูแลตั้งแต่รากเพื่อให้ต้นไม้เติบโต แข็งแรง ออกดอกผล ดังเช่นขยายการทำงานให้เต็มพื้นที่แผ่นดินไทย สำหรับผลงานในปีนี้ ส่วนตัวพอใจในระดับหนึ่ง และเห็นด้วยว่าจะต้องขยายให้เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

          วิสาหกิจกลุ่มส่งเสริมอาชีพบ้านหาดไก่ต้อย อ.ท่าปลา 1 ในโครงการฯ และยังเป็นชุมชนรอบเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ได้ร่วมกันผลิตเม็ดมะม่วงหิมพานต์แปรรูป รวม 7 รสชาติ เช่น รสดั้งเดิมใช้วิธีอบ และรสต้มยำ ซึ่งขายดีที่สุด ภายใต้ชื่อวันทาบ้านไร่ ใช้เมล็ดพันธุ์ สก.60-1 และสก.60-2  สร้างรายได้ทำให้วิถีชีวิตคนในชุมชน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไม่น้อยกว่า10 ชุมชน

          น.ส.นภัสกร จุลมุสิก สมาชิกกลุ่ม เล่าให้ฟังว่า หลังเข้าร่วมโครงการ ทำให้กลุ่มมีช่องทางการตลาดค้าขายเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดออนไลน์ “เอนจี้ ของดีทั่วไทย”ทำให้คนในชุมชนมีรายได้อย่างก้าวกระโดดถึงร้อยละ 90 จากเดิมร้อยละ 70 นอกจากจะทำให้คนในชุมชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุมีงานทำแล้ว ยังทำให้ผู้ที่เคยไปใช้แรงงานในกรุงเทพฯหวนกลับบ้านเกิดมาทำเม็ดมะม่วงหิมพานต์ด้วยกันและคนในชุมชนก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากยิ่งขึ้น

         ด้านนายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. เปิดเผยว่า ทั้งหมดนับเป็นภารกิจของ กฟผ.ที่ต้องการดูแลชุมชน รอบเขื่อนและโรงไฟฟ้าให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายจากจุดเริ่มต้น คือการดูศักยภาพคนในชุมชนว่ามีความสนใจและถนัดด้านใด จากนั้นจะนำไปสู่การพัฒนาให้เป็นสินค้าคุณภาพเกิดขึ้น ซึ่งร่วมมือกับ 11 องค์กร เพื่อพัฒนาให้เป็นสินค้าที่มีมาตรฐานและมีคุณภาพ (สินค้าเบอร์ 5)  อย่างไรก็ตาม ยังมีอีก 1 ภารกิจ นั่นคือการเพิ่มองค์กรเครือข่ายเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่านี้เพื่อร่วมกันช่วยเหลือชุมชนที่ห่างไกลให้มีความยั่งยืนต่อไป

          สำหรับโครงการนี้ นำโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม,สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช) และ กฟผ.มีความมุ่งหวังผลักดันและขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนในรูปแบบกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise : SE) ด้วยการเป็นพี่เลี้ยงช่วยเหลือชุมชนให้มีกิจการที่สร้างรายได้จากการผลิตหรือจัดจำหน่ายสินค้าและบริการของชุมชม โดยในปีนี้เครือข่ายพันธมิตรยังได้เตรียมเปิด "ตลาดปันสุข" ในปี 2563 เพื่อจัดจำหน่ายสินค้าถึง 3 ครั้ง

-ครั้งที่ 1 จัดในวันที่ 21-24 กันยายน

-ครั้งที่ 2 จัดในวันที่ 11-16 พฤศจิกายน 2563 ที่เซ็นทรัลพลาซ่า จ.ระยอง

-และครั้งที่ 3 จัดในวันที่ 24-29 พฤศจิกายน 2563 ที่เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา บีช

          ซึ่งจะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และยกระดับชุมชนให้มีความยั่งยืน สอดคล้องกับการดำเนินโครงการของกฟผ. กับชุมชนทั่วประเทศ