ที่เมืองเมลเบิร์น ในรัฐวิกตอเรีย ของออสเตรเลีย มีผู้เสียชีวิต 3 ราย รวมทั้งเด็กชายวัย 4 ขวบเมื่อมีพายุพัดถล่มพื้นที่เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) โดยกระแสลมมีความรุนแรงถึง 158 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง และบ้านเรือน 95,000 หลังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ระบบน้ำดื่มเสียหายเมื่อพายุทำให้น้ำที่ไม่ผ่านการบำบัดจากเขื่อนเข้าสู่ระบบน้ำดื่มของเมือง
สำหรับเด็กชายวัย 4 ขวบ ถูกต้นไม้ล้มทับในย่านแบล็กเบิร์นเซาท์ เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ประมาณ 15.00 น.ตามเวลาประเทศไทย)ขณะที่เขาเดินเล่นกับพ่อและน้องสาว โดยเขาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ส่วนผู้เสียชีวิต 2 รายคือชายอายุ 59 ปีเสียชีวิตในย่านเทโคมา และหญิงอายุ 36 ปีในย่านเฟิร์นชอว์ ทั้งคู่อยู่ในรถยนต์ที่มีต้นไม้หักโค่นลงมาทับเหมือนกัน
เมลเบิร์นอยู่ในการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 นานเกือบ 2 เดือนแล้ว เนื่องจากมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุดในประเทศและมีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 500 คนในรัฐวิกตอเรีย ผู้อยู่อาศัยได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านด้วยเหตุผลที่จำเป็นเท่านั้น และออกกำลังกายหนึ่งชั่วโมงต่อวัน