กมธ.งบประมาณ เรียก อนุ กมธ. ครุภัณฑ์ฯ ชี้แจงงบฯเรือดำน้ำ 31 ส.ค.
นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) รายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เปิดเผยว่า กมธ.งบประมาณฯ ได้ข้อสรุปในการเรียกคณะอนุกมธ.ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ที่มีนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน รายงานผลการพิจารณา รวมถึงงบประมาณในการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ วงเงิน 2.25 หมื่นล้านบาท ตามที่กองทัพเรือเสนอในวันที่ 31 ส.ค.ตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป
กมธ.งบประมาณฯ ยังไม่มีการเชิญกองทัพเรือมาร่วมพิจารณาด้วย แต่จะเป็นการซักถามถึงผลการพิจารณาในชั้น อนุ กมธ.อย่างละเอียดก่อน หากคำชี้แจงของคณะอนุ กมธ.ไม่ครบถ้วนรอบด้าน ถึงจะมีการเชิญกองทัพเรือเข้ามาชี้แจงอีกครั้งในวันที่ 1 ก.ย. มั่นใจว่า การพิจารณางบประมาณฯ ปี 2564 จะเสร็จทันภายในระยะเวลา 105 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดแน่นอน
นายกฯ ย้ำไม่อยากให้เรื่องเรือดำน้ำ เป็นประเด็นขัดแย้ง
การเลื่อนพิจารณาของกมธ.งบประมาณฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า รอดูการประชุมของคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ในวันนี้ก่อน และติดตามการประชุมของกมธ.งบประมาณ ในวันที่ 31 ส.ค. ยืนยันว่า ไม่ได้ไปสั่งให้เลื่อนการพิจารณางบประมาณจัดซื้อ
นายกฯ ชี้แจงว่า ในฐานะรมว.กลาโหม ได้เตรียมแก้ไขปัญหาไว้แล้ว ขอให้เดินทีละขั้นตอนและไม่เคยบอกว่าต้องซื้อ แต่ไปพาดหัวข่าวกันว่าต้องซื้อ ไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่พูดถึงเหตุผลความจำเป็น แหล่งที่มาของงบประมาณ ถ้าซื้อไม่ได้ต้องไปเจรจากับจีนอย่างไร เตรียมแผนไว้อย่างนี้ เรื่องนี้เป็นการอนุมัติมาล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนที่ 2 และ 3 การต่อเรือไม่ได้ใช้เวลาสั้นๆ ต้องเตรียมวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งหมดต้องรับผิดชอบด้วยกันอยู่แล้ว ในฐานะที่เป็นรัฐบาล เป็นนายกฯ และเป็น รมว.กลาโหม ขอความเข้าใจ ไม่อยากให้เป็นประเด็นที่ขัดแย้งกันอีก
28 ส.ค. ดีเดย์ เลือก ผบ.ตร.คนใหม่
ช่วงบ่ายนี้ นายกฯในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ประชุม ก.ต.ช. พิจารณาแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) คนใหม่ นายกฯ กล่าวถึง การแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ว่าหลักเกณฑ์การแต่งตั้งก็เป็นหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่ปฏิบัติมาพิจารณาว่าในระดับรอง ผบ.ตร.ทุกคนที่เข้าเกณฑ์ที่สามารถจะตั้งได้ ต้องไปพิจารณาให้ความเห็นชอบร่วมกัน ดูถึงความเหมาะสมและสถานการณ์ด้วยรวมถึงผลงานการปฏิบัติงานในช่วงที่ผ่านมาด้วย
มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. อาวุโสระดับ 5 จะได้รับการเสนอชื่อแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร.คนใหม่ ซึ่งที่ประชุม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา จะเสนอชื่อรอง ผบ.ตร. 1 คน ให้ที่ประชุมเห็นชอบ หากถูกปัดตก ต้องเสนอชื่ออีกครั้ง ซึ่งกฎหมายตำรวจไม่ห้ามให้เสนอชื่อรอง ผบ.ตร.คนเดิม หรือจะเสนอคนใหม่ก็ได้
หลังการประชุมก.ต.ช. นายกฯ ยังประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 7/2563 ต่อเนื่องทันที วาระสำคัญ คือ แต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.ถึง ผบก.วาระประจำปี 2563 โดยระดับ รอง ผบ.ตร.ว่าง 3 ตำแหน่ง ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่าง 6 ตำแหน่ง ระดับผู้บัญชาการว่าง 13 ตำแหน่ง ระดับรองผู้บัญชาการว่าง 43 ตำแหน่ง และ ผบก.ว่าง 77 ตำแหน่ง ในการแต่งตั้งนายพลวาระประจำปีนี้ จะมีตำแหน่งว่างทั้งสิ้น 142 ตำแหน่ง และอาจมีการโยกย้ายในระนาบเดียวกันด้วย
ภรรยาบิลลี่ กระเหรี่ยงแก่งกระจาน ร้องขอความเป็นธรรมจากอัยการสูงสุด ขอให้ฟ้อง"ชัยวัฒน์"กับพวก
คดีการเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนและแกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ก่อนพบชิ้นส่วนศพในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเมื่อปี 2562 กรณีนี้ พนักงานอัยการ มีคำสั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ช่วงปี 2551-2557 กับพวกรวม 4 คน ประกอบด้วย นายบุญแทน บุษราคัม นายธนเสฏฐ์ หรือไพฑูรย์ แช่มเทศ และนายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ขณะที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ทำความเห็นแย้งไปแล้ว
น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยานายพอละจี ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด ในการพิจารณาสำนวนคดีฆาตกรรมนายพอละจี โดยมีนายวรวุฒิ วัฒนอุตถานนท์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการอัยการ เป็นตัวแทนผู้รับมอบหนังสือ โดยกล่าวว่า สำนวนคดีอยู่ในการพิจารณาของสำนักชี้ขาดคดี สำนักงานอัยการสูงสุด โดยจะมีการพิจารณาคำร้องดังกล่าวว่าสมควรมีการสอบสวนเพิ่มเติมหรือไม่ จากนั้นจะมีการทำความเห็นส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาเป็นขั้นตอนสุดท้าย ส่วนกรณีสั่งไม่ฟ้อง แต่หากมีพยานหลักฐานใหม่ก็ยกขึ้นพิจารณาได้ เช่นเดียวกับกรณีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ที่ใช้อำนาจตาม ป.วิอาญา มาตรา 147 หยิบยกคดีขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง
ด้านน.ส.วราภรณ์ อุทัยรังษี หนึ่งในทีมทนายความ ระบุว่า ตามหนังสือร้องขอความเป็นธรรมได้ขอให้อัยการสูงสุด พิจารณาประเด็นที่กลุ่มผู้ต้องหา ควบคุมตัวนายพอละจี ก่อนหายตัวไปจนพบศพว่าเป็นการควบคุมตัวโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ขอให้อัยการสูงสุด สั่งให้พนักงานสอบสวน สอบสวนเพิ่มเติมในประเด็นที่ผู้ต้องหามีความพยายามเบี่ยงประเด็นว่าพบนายพอละจี ตามสถานที่ต่างๆและปล่อยข่าวว่ากระดูกที่พบเกิดจากการลอยอังคาร ซึ่งไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ถือว่าเป็นการแสดงเจตนาไม่บริสุทธิ์ รวมทั้งยังปรากฏการคุกคามพยานกลุ่มชาติพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้ามีหลักฐานชัดเจนจะยื่นขอให้ศาลถอนคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหา
CR:The Standard