ปธน.รัสเซีย เผยอาจส่งตำรวจไปเบลารุสหากมีความจำเป็น

          ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เปิดเผยว่าเขาได้จัดตั้งกองกำลังสำรองของตำรวจตามที่ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก แห่งเบลารุสร้องขอเผื่อกรณีที่มีความจำเป็นต้องสนับสนุนเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเบลารุส หากสถานการณ์มีความรุนแรงจนควบคุมไม่ได้ ซึ่งสถานการณ์ต่าง ๆ ในเวลานี้ยังไปไม่ถึงจุดนั้น ประธานาธิบดีปูติน กล่าวด้วยว่า รัสเซียมีภาระผูกพันที่จะต้องช่วยเหลือเบลารุสในด้านความมั่นคง เนื่องจากทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นทางวัฒนธรรม ชาติพันธุ์และภาษา กองกำลังสำรองชุดใหม่นี้จะไม่เข้าไปในเบลารุสเว้นแต่กลุ่มบุคคลที่ประธานาธิบดีรัสเซียระบุว่าเป็นกลุ่มหัวรุนแรงที่ใช้คำขวัญทางการเมืองจะมีการกระทำที่เป็นการปิดกั้น, ปล้นด้วยอาวุธ, วางเพลิงรถยนต์ บ้านธนาคาร และพยายามบุกยึดสถานที่ราชการ ซึ่งเขาเห็นว่าโดยรวมแล้วสถานการณ์ในประเทศเบลารุสกำลังคลี่คลายลง

          จากผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ประธานาธิบดีลูคาเชนโกเป็นผู้ชนะแต่ทำให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ในกรุงมินสก์ มีผู้ประท้วงเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย และถูกจับกุมอีกเกือบ 7,000 คน ขณะที่ผู้นำฝ่ายค้านลี้ภัยไปอยู่ที่ลิทัวเนีย นอกจากนี้ สหภาพยุโรปและสหรัฐฯ ยังไม่ยอมรับการเลือกตั้ง โดยเห็นว่าไม่มีความโปร่งใส และยุโรปกำลังเตรียมพิจารณามาตรการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่ซึ่งมีการทุจริตช่วยเหลือให้ประธานาธิบดีลูคาเชนโกที่ปกครองประเทศมา 26 ปีได้รับชัยชนะอีกครั้งและปราบปรามการเคลื่อนไหวของฝ่ายค้าน

          ด้านนายกรัฐมนตรีมาแตอุช โมราเวียสกี ของโปแลนด์ กล่าวว่า ประธานาธิบดีปูตินกำลังดำเนินความพยายามกลับไปควบคุมเบลารุสเพื่อปกปิดการกระทำที่เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งเรียกร้องให้ยกเลิกแผนการส่งกองกำลังเข้าไปในเบลารุสในทันที

          รัสเซียและเบลารุสเป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วม (the Collective Security Treaty Organisation : CSTO) ประกอบด้วย กลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต ทั้งสองประเทศยังมีการจัดตั้งสหภาพแรงงานในปี 2539 ซึ่งส่งเสริมการรวมกลุ่ม รวมถึงการรับประกันสิทธิในการทำงานและการพักอาศัยในทั้งสองประเทศ

...