ความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องเด็ดขาดของอัยการ คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555 พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปว่า คณะกรรมการฯ มีพยานหลักฐานใหม่เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญด้านความเร็ว และพบหลักฐานที่ยืนยันได้ว่ามีการเสพยาเสพติด จึงแจ้งข้อเท็จจริงดังกล่าวไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) โดย ผบ.ตร.เห็นชอบแล้ว และมีการขอศาลออกหมายจับ 3 ข้อหา คือ
1. ข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 2 (โคเคอีน) หรือโคเคน โดยผิดกฎหมาย
2. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนรถผู้อื่นเสียหาย มีผู้ถึงแก่ความตาย
3. ข้อหาขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหายและไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงานในทันที
ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อได้สอบปากคำพยานผู้เชี่ยวชาญด้านความเร็ว 4 ปาก คือ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น, ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ และดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยยานยนต์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โดยในส่วนความเร็วรถมี 125 กม./ชม. 144 กม./ชม. และ 177 กม./ชม. ทั้งหมดเกินกว่ากฎหมายกำหนด รวมทั้งสอบพยานยาเสพติดอีก 4 ปาก คาดว่าในสัปดาห์หน้าพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ จะส่งสำนวนไปยังอัยการได้
นอกจากนี้ ได้เสนอข้อบกพร่องของข้าราชการตำรวจที่พบใหม่ 10 นาย (จากเดิม 11 นาย) ซึ่ง 10 นายนี้มีทั้งที่เกษียณอายุราชการแล้ว และยังอยู่ในราชการตำแหน่งสูงสุดมีอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (อดีตผบช.น.) บกพร่องเพราะไม่ควบคุมสั่งการให้เสร็จเด็ดขาด
สำหรับการติดตามตัว นายวรยุทธ หลังจากอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาแล้ว กองการต่างประเทศ สตช. จะประสานองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรืออินเตอร์โพล พิจารณาออกหมายแดง แต่ขณะนี้ตำรวจยังไม่ทราบว่านายวรยุทธอยู่ที่ไหน