ศาลอาญา ตัดสินประหารชีวิต นายประสิทธิชัย เขาแก้ว อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งใน จ.สิงห์บุรี ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า ในห้างสรรพสินค้าที่ จ.ลพบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 4 คน นอกจากนี้ ศาลยังให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายตามความเป็นจริง เช่น ค่าปรงศพ ค่าพิธีกรรมทางศาสนา ส่วนค่าชดใช้เยียวยาจิตใจ รวมถึงค่าเสียหายด้านพยาบาลผู้บาดเจ็บ ให้ชดใช้แตกต่างกันไปตามความเสียหายของแต่ละบุคคล รวมเป็นเงินกว่า 6,000,000 บาท คดีนี้พนักงานอัยการคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้องในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นฯ, พยายามฆ่าผู้อื่นฯ,ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนฯและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน
ศาลได้เบิกตัวนายประสิทธิชัย มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยมีอัยการโจทก์ ทนายจำเลย และญาติผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่ศาล เพื่อรับฟังกระบวนการพิจารณาคดี ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานและหลักฐานของพนักงานสอบสวนรวมถึงพยานในที่เกิดเหตุสอดคล้องตรงกัน มีความชัดเจนทำให้เชื่อได้ว่า จำเลยเป็นผู้ก่อเหตุในคดี ข้ออ้างที่จำเลยให้การต่อศาลว่าเป็นความคิดชั่ววูบเพราะมีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก รับฟังไม่ขึ้น เนื่องจากมีการเตรียมการและมีอาวุธปืนพร้อมที่เก็บเสียง แสดงให้ถึงการตระเตรียมที่จะกระทำความผิด
กรณีวิถีกระสุนทำให้เด็กชายเสียชีวิตจำเลยอ้างว่าไม่เจตนา ไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อพิจารณาจากหลักฐานแล้ว เห็นว่าเมื่อจำเลยนำปืนเก็บเสียงยิงไปที่ นายธีระฉัตร นิ่มมา พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของห้าง และกระสุนทะลุไปโดน ด.ช.ภาณุวิชญ์ วงศ์อยู่ จนเสียชีวิต ศาลถือว่าเจตนากระทำผิดต่อเด็กด้วย
ส่วนที่จำเลยขอให้ลงโทษสถานเบาเพราะภายหลังก่อเหตุเกิดความสำนึกเสียใจ ยอมให้จับกุมประกอบกับมีคุณงามความดีมาก่อนนั้น ศาลเห็นว่าจำเลยไม่ได้มอบตัวและการให้การมีประโยชน์ต่อการแสวงหาหลักฐานหรือการสอบสวน เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์ก็สามารถนำสืบจนทราบได้ และคำให้การไม่มีการให้ประโยชน์ความรู้กับศาล จึงไม่มีเหตุให้พิจารณาบรรเทาโทษ ทั้งนี้คำรับสารภาพของจำเลยเป็นการจำนนต่อหลักฐาน การกระทำผิดของจำเลยเป็นภัยร้ายแรง คุกคามต่อสังคม ไม่มีเหตุให้บรรเทาโทษตามกฏหมาย คำขอของจำเลยฟังไม่ขึ้น
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2563 จำเลยถืออาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม.ทะเบียน กท 5027346 เลขหมาย A 300638 ติดท่อเก็บเสียง 1 อัน ซองกระสุนปืนพร้อมเครื่องกระสุน พร้อมเครื่องกระสุนเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาลพบุรี แล้วยิงนายธีระฉัตร รวมทั้งประทุษร้ายบุคคลทั่วไป จนเป็นเหตุให้ ด.ช.ภาณุวิชญ์ และ น.ส.ธิดารัตน์ ทองทิพย์ พนักงานร้านทองออโรร่า เสียชีวิต และจำเลยยังได้ยิงบุคคลอื่นอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงเอาสร้อยคอทองคำ น้ำหนักเส้นละ 1 บาท จำนวน 22 เส้น น้ำหนักเส้นละ 2 สลึง อีก 11 เส้น รวม 33 เส้น คิดเป็นเงิน 664,470 บาท ของบริษัท ออโรร่าดีไซน์ จำกัด ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมตัวจำเลยได้พร้อมของกลางหลายรายการ และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
แฟ้มภาพ