‘หมอธีระ’ เตือนต้องระวัง เสี่ยงติดโควิด-19 จากระบบขนส่งสาธารณะ หากมีคนติดแล้วไม่รู้ตัว

          รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์  คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยข้อมูลผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ว่า วันนี้ มีผู้ป่วยรายใหม่ 1 คน เป็นชาวอินเดีย เดินทางจากอินเดียมาไทย ตรวจครั้งแรกไม่พบเชื้อ มาตรวจเจอเชื้อในช่วงกักตัวแล้ว 13 วัน จากการตรวจสอบพบว่า เที่ยวบินที่ผู้ป่วยเดินทางมามีคนติดเชื้อไปแล้ว 22 คน ในลำเดียวกันเดินทางมา 209 คน เป็นคนไทย 138 คน ต่างชาติ 71 คน ติดเชื้อไปรวม 23 คน คิดเป็นร้อยละ 11 ชายหญิงติดเชื้อพอๆกัน  เมื่อตรวจสอบพบว่า ที่นั่งบนเครื่องบินเต็มทุกที่นั่ง ไม่มีการเว้นระยะห่าง ที่สำคัญคือผู้โดยสารบางคนไม่สวมหน้ากากอนามัย หากดูแผนที่ที่นั่งในเครื่องบิน พบว่า ติดกันทุกเคบิน ทั้งตอนหน้าตอนกลางและตอนหลัง

          เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องเฝ้าระวัง การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะทุกชนิดมีโอกาสแพร่เชื้อได้เสมอหากมีคนติดเชื้ออยู่ จะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม หากเลี่ยงได้ก็จะดี หากเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องรักษาระยะห่าง ล้างมือ และใส่หน้ากากอนามัยเสมอและหลังจากเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะแล้ว หมั่นสังเกตอาการตนเองอยู่เสมอ หากมีอาการไม่สบาย เป็นไข้ ไอ เจ็บคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล ดมไม่ได้กลิ่น ลิ้นรับรสไม่ได้ หรือท้องเสีย ก็ต้องรีบไปตรวจรักษา

          งานวิจัยทางการแพทย์ตอนนี้ชี้ให้เห็นแล้วว่าต้องไม่ประมาท บางคนมีอาการคิดว่าเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่นั้นอาจเป็นโควิด-19 ได้ หรือติดเชื้อพร้อมกันทั้งไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 ได้ ดังนั้นทั้งคุณหมอและผู้ป่วยก็ต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ให้ดี ปัจจุบันมีความเสี่ยงมากขึ้น คนที่มารักษาด้วยอาการหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ควรได้รับการตรวจโควิด-19 ด้วยเสมอ เพราะทุกคนล้วนสัมผัสกันในชุมชน ทั้งตลาด ห้าง หรือขนส่งสาธารณะต่างๆ

         ล่าสุดงานวิจัยตีพิมพ์ใน Journal of Infectious Diseases วันที่ 26 ส.ค.ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มระบาดซ้ำจำนวน 108 คนในโอซาก้า ของญี่ปุ่น มีจำนวน 51 คนที่มีประวัติไปเที่ยวคลับดนตรีในช่วง 2-17 วันก่อนที่จะป่วยเป็นโรค-19 พบว่าน่าจะรับเชื้อมาจากคนติดเชื้อที่ไม่มีอาการ โดยคนที่ติดเชื้อสามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ตั้งแต่วันที่สองหลังจากได้รับเชื้อมา

         การป้องกันตัวนั้นสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทุกคนในประเทศและรัฐไม่ควรดำเนินนโยบายหาความเสี่ยงที่จะนำโรคเข้าสู่ประเทศหากเกิดระบาดซ้ำ ผู้บริหารของหน่วยงานต้องรับผิดชอบทั้งฝั่งการเมืองและฝั่งราชการ

CR:รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์