กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ระบุว่าเอเชียจำเป็นต้องมีกองทัพของสหรัฐฯประจำการ เนื่องจากการแข่งขันและความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับจีนมีความรุนแรงมากขึ้นตั้งแต่ประเด็นการค้า สาธารณสุข ไปจนถึงการทหาร ซึ่งนายทีโอโดโร ล็อกซิน จูเนียร์ รัฐมนตรีการต่างประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เอเชียมีสถานการณ์ของการคานดุลอำนาจ และเอเชียต้องการสหรัฐฯ แต่ในขณะที่ยืนยันถึงความจำเป็นในการมีทหารสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ รัฐมนตรีการต่างประเทศของฟิลิปปินส์กล่าวว่าเขายินดีรับโอกาสทางเศรษฐกิจที่จีนเสนอ
ทั้งนี้ สหรัฐฯคัดค้านการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนของจีนในทะเลจีนใต้เป็นเวลานานและมีการเดินเรือเพื่อยืนยันเสรีภาพในการเดินเรือเป็นระยะ รวมทั้งให้การสนับสนุนไต้หวัน ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่ทางการจีนออกแถลงการณ์ประณาม
นายล็อกซิน กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ให้ความสำคัญต่อการที่สหรัฐฯ รักษาสถานะทางทหารในภูมิภาค และฟิลิปปินส์ไม่เคยหยุดความร่วมมือกับพันธมิตรด้านความมั่นคงที่มีมาอย่างยาวนาน
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯเคยมีฐานทัพขนาดใหญ่สองแห่งในฟิลิปปินส์คือซูบิกเบย์และคลาร์ก แต่ต้องถอนกำลังพลออกจากฐานทัพในปี 2535 จากนั้นในปี 2543 มีการรื้อฟื้นความสัมพันธ์โดยจัดการซ้อมรบประจำปี และการเดินทางของผู้นำรัฐบาล รวมถึงการช่วยเหลือต่อต้านคอมมิวนิสต์และผู้ก่อความไม่สงบ แต่เมื่อเดือนมิถุนายนของปีนี้ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ประกาศระงับความร่วมมือด้านการทหารกับสหรัฐฯ เพราะไม่พอใจที่สหรัฐฯ วิพากษ์วิจารณ์นโยบายการทำสงครามปราบปรามยาเสพติด
ขณะเดียวกันฟิลิปปินส์ยื่นเรื่องคัดค้านทางการจีนหลายครั้งเกี่ยวกับข้อพิพาททางทะเล โดยล่าสุดคือการยื่นฟ้อง กรณีที่จีนยึดเรือประมงของฟิลิปปินส์
นอกจากนี้จีนยังมีข้อพิพาททะเลจีนใต้กับเวียดนาม มาเลเซีย บรูไนและไต้หวัน โดยเมื่อวานนี้ (26 ส.ค.) เวียดนามกล่าวหาจีนว่าละเมิดอธิปไตยของตนโดยจัดการฝึกซ้อมทางทหารในพื้นที่พิพาทของทะเลจีนใต้
....