เคสแรกของโลก!นักวิจัยฮ่องกง พบผู้ป่วยโควิด-19 ซ้ำ WHO เตือนอย่าเพิ่งสรุป

25 สิงหาคม 2563, 09:24น.



นักวิจัยมหาวิทยาลัยฮ่องกง พบชายวัย 33 ปี ป่วยโรคโควิด-19 สองครั้งในปีนี้



-26 มี.ค. พบการติดเชื้อรอบแรก ผู้ป่วยมีไข้ เจ็บคอ ไอและปวดศีรษะ นาน 3 วัน ใช้เวลารักษาตัว 14 วัน



-15 ส.ค. พบการติดเชื้อรอบสองเกิดขึ้นหลังจากผู้ป่วยซึ่งเป็นพนักงานไอที เดินทางกลับจากสเปนผ่านทางอังกฤษ ผลตรวจเชื้อที่ด่านคัดกรองสนามบินฮ่องกงให้ค่าเป็นบวกเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง แต่รอบนี้ไม่มีอาการ



          ในการศึกษาเรื่องนี้ นักวิจัยมหาวิทยาลัยฮ่องกงและโรงพยาบาลหลายแห่งในฮ่องกง วิเคราะห์ตัวอย่างที่เก็บจากคนไข้ 10 วัน หลังมีอาการจากการติดเชื้อรอบแรกกับตัวอย่างที่เก็บจากคนไข้ 1 วันหลังเข้าโรงพยาบาลจากติดเชื้อรอบสอง ผลวิเคราะห์ทางพันธุกรรม พบว่า การติดเชื้อรอบแรกเป็นเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ SARS-CoV-2 ใกล้เคียงกับสายพันธุ์จากสหรัฐฯหรืออังกฤษ ส่วนการติดเชื้อครั้งที่สองเป็นสายพันธุ์จากสวิตเซอร์แลนด์และอังกฤษ



ผลศึกษาที่จะได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Clinical Infectious Diseases ระบุว่า กรณีของชายฮ่องกงรายนี้สะท้อนว่า



1.การติดเชื้อซ้ำอาจเกิดขึ้นได้แม้เพิ่งหายป่วยจากติดเชื้อครั้งแรกไม่กี่เดือน เชื้อไวรัส SARS-CoV-2 อาจคงอยู่ในคนเหมือนกับไวรัสโคโรนาที่ทำให้เกิดโรคหวัดธรรมดา แม้ว่าคนป่วยสร้างภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อตามธรรมชาติหรือผ่านวัคซีนก็ตาม



2.คนที่เคยติดเชื้อไวรัสใหม่นี้แล้ว ยังควรได้รับวัคซีน เมื่อถึงเวลาที่มีวัคซีนใช้ ทั้งยังควรปฏิบัติตนตามมาตรการคุมระบาดพื้นฐาน เช่น ใส่หน้ากากอนามัยและรักษาระยะห่าง

         ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าควรศึกษาเพิ่มเติม ดร.มาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของโครงการฉุกเฉินด้านสุขภาพ องค์การอนามัยโลก(WHO) กล่าวว่า ยังไม่ควรสรุปจากผู้ป่วยคนเดียว เนื่องจากปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 24 ล้านคน จำเป็นต้องศึกษาประเด็นนี้กับผู้ป่วยจำนวนมากและในช่วงเวลาหนึ่ง และจากประสบการณ์กับไวรัสโคโรนาอื่นๆในคน หรือเมอร์ส และซาร์ส ก็เป็นที่รู้ว่าร่างกายจะมีแอนติบอดี้ระยะหนึ่งก่อนหายไป




 

ข่าวทั้งหมด

X