ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.วันอังคารที่ 25 สิงหาคม 2563

25 สิงหาคม 2563, 08:19น.



กรมชลฯ วางแผนบริหารน้ำตามโครงการบางระกำโมเดล



          นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่คลองแยงมุม บ้านวังขี้เหล็ก ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ติดตามสถานการณ์น้ำที่ระบายมาจากประตูน้ำหาดสะพานจันทร์ อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย โดยวางแผนการบริหารจัดการน้ำ เบื้องต้นได้ผลักดันมวลน้ำลงสู่คลองน้ำธรรมชาติทั้ง 99 แห่ง โดยเฉพาะบริเวณคลองแยงมุม ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม หากมีมวลน้ำเข้ามามากอีก ก็จะผันน้ำข้ามทุ่งตามโครงการบางระกำโมเดล พร้อมแจ้งเตือนประชาชนใน จ.พิษณุโลก เตรียมความพร้อมรับน้ำแม่น้ำยมจาก จ.สุโขทัย โดยเฉพาะประชาชนและพื้นที่การเกษตรที่อยู่ริมตลิ่งแม่น้ำยมสายหลักและริมตลิ่งแม่น้ำยมสายเก่า-คลองเมม-คลองบางแก้ว อ.พรหมพิราม อ.เมือง และ อ.บางระกำ เฝ้าระวังสถานการณ์และขนของขึ้นที่สูง หากเกิดภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่ง



3 อำเภอในจ.พิจิตร ได้รับผลดีจากน้ำแม่ยม



          สำนักงานชลประทานจังหวัดพิจิตร เปิดประตูน้ำทั้ง 4 ช่องระบายน้ำของเขื่อนบ้านจระเข้ผอม ต.รังนก อ.สามง่าม เพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำยมที่เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลดีกับพื้นที่ตอนกลางและพื้นที่ตอนใต้ของแม่น้ำยมในเขต อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.บึงนาราง และ อ.โพทะเล จ.พิจิตร ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ แต่ถ้าหากปริมาณน้ำมากเกินไปก็อาจจะส่งผลกระทบกับประชาชนที่อยู่พื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำยม



ฝนตกหนักเติมน้ำในกว๊านพะเยา

          นายปาโมกข์ ปิงเมือง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพะเยา (ผคป.) เปิดเผยว่า หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในกว๊านพะเยา และอ่างเก็บน้ำจุดต่างๆในพื้นที่ แต่ยังปิดประตูน้ำไม่มีการเปิดระบาย นายอนุรักษ์ โปร่งสุยา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ออย อ.ปง จ.พะเยา เปิดเผยว่า ฝนที่ตกลงมาทำให้ช่วยเติมน้ำในนาข้าว เพราะฝนตกติดต่อทั้งกลางวันกลางคืน ทำให้ข้าวฟื้นตัว ช่วงกลางพรรษาคือช่วงเวลาทำนาที่เหมาะสมที่สุด มีฝนตกได้น้ำเลี้ยงนาข้าวอย่างเต็มที่



การจัดซื้อเรือดำน้ำ จะเดินหน้าต่อหรือไม่ ต้องผ่านด่านกมธ.งบประมาณ



           ประเด็นสำคัญในการแถลงข่าวของกองทัพเรือ เรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ นำทีมโดย พล.ร.อ.สิทธิพร มาศเกษม เสนาธิการทหารเรือ คือ กองทัพเรือ ย้ำถึงเหตุผล ความจำเป็นในการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ มูลค่ารวมทั้งหมด 22,500 ล้านบาท จากประเทศจีน ที่เป็นโครงการงบประมาณผูกพันที่อยู่ในร่างพระราชบัญญัติ( พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ที่สภาผู้แทนราษฎร กำลังพิจารณากันอยู่ในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งต้องจับตาดูว่าการประชุมกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่วันพุธที่ 26 ส.ค. เสียงส่วนใหญ่ที่ก็เป็นกรรมาธิการจากฝ่ายรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลจะว่าอย่างไร จะลงมติ เดินหน้าหรือถอยหลัง



          ตามกระบวนการ หากสุดท้ายเสียงส่วนใหญ่ในกรรมาธิการงบประมาณชุดใหญ่ไม่มีการตัดงบโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำออกไป อาจจะมีกรรมาธิการงบประมาณจากพรรคฝ่ายค้านใช้สิทธิกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ทำการขอสงวนความเห็นเพื่อนำไปอภิปรายในที่ประชุมใหญ่ ตอนร่าง พ.ร.บ.งบประมาณกลับเข้าสภาผู้แทนราษฎร วาระ 2 และ 3 ในช่วงกลางเดือนก.ย.นี้ เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรตัดงบประมาณดังกล่าวได้ เท่ากับว่าโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ยังต้องผ่านการพิจารณา คือที่ประชุมใหญ่กรรมาธิการงบประมาณพุธนี้ กับที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎรกลางเดือนหน้า 



          คณะแถลงข่าวของกองทัพเรือ ย้ำว่า โครงการดังกล่าวมีความจำเป็นตามแผนยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศ โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันที่มีความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ (การซ้อมรบ-การทดสอบยิงขีปนาวุธจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกา-จีน-ไต้หวัน) ตลอดจนในคาบสมุทรเกาหลี กองทัพเรือ จึงยืนยันว่า หากกองทัพเรือไม่มีกำลังที่เข้มแข็งเพียงพอ อาจมีผลกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ เพราะไม่มีใครรู้ได้ว่าสถานการณ์วันข้างหน้าในทะเลจีนใต้จะไม่เกิดเหตุเผชิญหน้ากัน



          อีกประเด็นสำคัญก็คือ เรื่องการจ่ายเงินเพื่อจัดซื้อเรือดำน้ำทั้ง 2 ลำ กองทัพเรือย้ำว่า ไม่ได้จ่ายทีเดียวเลย 22,500 ล้านบาท แต่ใช้วิธีทยอยจ่าย และเรื่องนี้ไม่ใช่โครงการใหม่แต่เป็นโครงการในการเสริมสร้างกำลังของกองทัพที่เริ่มตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2569 เป็นการทยอยตั้งงบประมาณรายปีภายในงบประมาณที่กองทัพเรือได้รับตามปกติ ไม่ได้มีการขอรับงบประมาณเพิ่มเติมและรายการนี้ได้ตราไว้แล้วในพระราชบัญญัติงบประมาณประจำปี 2563 และยืนยันว่าโครงการดังกล่าวไม่มีจีทูจีปลอม แต่ลักษณะการทำนิติกรรมระหว่างกองทัพเรือไทยกับทางจีน เป็นลักษณะ Agreement ข้อตกลง จึงไม่ต้องทำ MOU กองทัพเรือจึงย้ำว่าโครงการนี้ไม่มีแน่จีทูจีปลอม แต่พรรคเพื่อไทยต่างหากที่ทำจีทูจีเก๊ในโครงการรับจำนำข้าว   



ตำรวจ มั่นใจส่งสอบเพิ่มคดี “บอส อยู่วิทยา”ทัน 28 ส.ค.



          พ.ต.ท. ธนาวุฒิ สงวนสุข รองผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เปิดเผย ความคืบหน้าการสอบสวนเพิ่มเติมสำนวนคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 ว่า ประเด็นความเร็วรถที่อัยการสั่งให้สอบสวนเพิ่มเติม ขณะนี้เหลือพยานอีก 1 ปากที่ยังต้องสอบคือ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร เบื้องต้นได้ให้ข้อมูลมาบางส่วนแล้วแต่จะเชิญมาสอบถามข้อมูลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาคดีเสพโคเคนเริ่มสอบสวนแล้ว พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ กำหนดประเด็นและบุคคลที่จะสอบสวนไว้แล้วบางส่วนเป็นบุคคลเดิมที่เคยให้ข้อมูลไว้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้นในวันที่ 28 ส.ค. เพื่อส่งสำนวนให้อัยการตามกำหนดนัดแน่นอน




 

ข่าวทั้งหมด

X