ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2563

24 สิงหาคม 2563, 13:02น.



พิจิตร เปิดประตูเขื่อน เพิ่มพื้นที่รับมวลน้ำก้อนใหญ่ที่ไหลบ่าจากจ.แพร่ สุโขทัย พิษณุโลก



สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยมที่รับน้ำจากจ.สุโขทัย และพิษณุโลก มีปริมาณมาก สำนักงานชลประทานจ.พิจิตร เปิดประตูน้ำทั้ง 4 ช่องระบายน้ำของเขื่อนไฮดรอลิคขนาดกลาง บ้านจระเข้ผอม ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร เพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำยมที่เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็วจากปริมาณน้ำที่ไหลจากจังหวัดตอนบนทั้งจากจ.สุโขทัย ที่ไหลผ่านจ.พิษณุโลก เข้าสู่จ.พิจิตร ปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้กระแสน้ำขุ่นข้น มีวัชพืช ผักตบชวา และเศษวัสดุ เช่น ไม้ไผ่ลอยมากับน้ำจำนวนมาก



ชลประทานจ.พิจิตร เปิดประตูทั้ง 4 ช่อง เพื่อให้น้ำได้ระบายเร็วที่สุดเพื่อเพิ่มพื้นที่รับน้ำในแม่น้ำยม คาดว่า จะมีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลจากจ.แพร่ ผ่านจ.สุโขทัย เข้าสู่พื้นที่จ.พิจิตร



สำหรับการระบายน้ำแม่น้ำยมที่ระบายจากเขื่อนบ้านจระเข้ผอมซึ่งเป็นพื้นที่ตอนบนของแม่น้ำยมส่งผลดีกับพื้นที่ตอนกลางและพื้นที่ตอนใต้ของแม่น้ำยม ในเขตอ.โพธิ์ประทับช้าง อ.บึงนาราง และอ.โพทะเล ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ประสบปัญหาภัยแล้งยาวนานก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตามหากปริมาณน้ำมากเกินไปก็อาจจะส่งผลกระทบกับประชาชนที่อยู่พื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำยม



คาด ครม.สัญจร อนุมัติส่วนต่อขยายมอเตอร์เวย์ จากด่านอู่ตะเภา วิ่งตรงเข้าสนามบินอู่ตะเภา ระยะทาง 3.5 กม.



นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรและปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดระยอง และจันทบุรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดใช้งานทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด อย่างเป็นทางการ ในช่วงบ่ายวันนี้ โดยการพัฒนาเส้นทางมอเตอร์เวย์ในภาคตะวันออก นอกจากจะมีการก่อสร้างตามเป้าหมายเพื่อให้มีระบบคมนาคมสนับสนุนภาคธุรกิจ การลงทุน และอุตสาหกรรมพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ หรืออีอีซี แล้ว นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ให้นโยบายกับกรมทางหลวง ให้เร่งพัฒนาเชื่อมต่อระหว่างระบบคมนาคมโหมดต่างๆ



นายกฯ และกระทรวงคมนาคม เห็นด้วยกับแนวทางที่จะให้มีการสร้างเส้นทางมอเตอร์เวย์ ต่อเชื่อมจากด่านอู่ตะเภาวิ่งตรงไปยังท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา โดยจะมีการก่อสร้างทางยกระดับ ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้าง 4,200 ล้านบาท คาดว่า จะมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) สัญจร เห็นชอบในหลักการโครงการดังกล่าวได้ ในการประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้



หลังจาก ครม. ให้ความเห็นชอบ คาดว่า จะใช้เวลาในการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม 1 ปี ก่อนจะมีการดำเนินการประกวดราคาก่อสร้างในปี 2565 และก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2568 โดยกำหนดการแล้วเสร็จจะสอดคล้องกับการพัฒนาขยายท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาในระยะต่อไปด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้เกิดการเดินทางเชื่อมต่อทางมอเตอร์เวย์ และผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน ทั้งนักท่องเที่ยว และภาคธุรกิจที่ลงทุนในพื้นที่อีอีซี



สศช. ทบทวนแผนแม่บท ให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19



นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช.ได้พิจารณาทบทวนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ล่าสุด สศช. ได้ดำเนินการศึกษาและประเมินสถานการณ์ในการรองรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) และผลกระทบที่เกิดจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 โดยวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งขั้นตอนจากนี้ สศช.จะนำเสนอคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ที่มีนายกฯ เป็นประธาน และ ครม. ตามขั้นตอนต่อไป



ทั้งนี้ สศช. ได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดทำโครงการสำคัญประจำปี 2565 เพื่อการบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ โดยมีคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 ด้าน และผู้แทน รวมถึงหน่วยงานเจ้าภาพแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติทั้งสามระดับ ประมาณ 70 หน่วยงาน รวมประมาณ 400 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อจัดลำดับความสำคัญโครงการสำคัญประจำปีงบประมาณ 65 ระหว่าง สศช. หน่วยงานเจ้าภาพแผนแม่บทฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งที่ 4 



จับตา การเข้าโรงพยาบาล ครั้งที่ 2 ของนายกฯ ญี่ปุ่น  



นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่น เดินทางไปยังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเคโอ ในเขตใจกลางกรุงโตเกียว เมื่อวันจันทร์  เพียงสัปดาห์เดียวหลังเดินทางมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. และใช้เวลาอยู่ที่นี่นานถึง 7 ชั่วโมงครึ่ง



ด้านนายโยชิฮิเดะ ซึกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ปฏิเสธรายงานทุกกระแสว่า นายอาเบะป่วย และภาพการไปพบแพทย์ที่ปรากฏตามสื่อเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นเพียงการตรวจสุขภาพตามนัดและการเดินทางไปยังโรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อรับผลตรวจสุขภาพ และเน้นว่าผู้นำญี่ปุ่นจะกลับมาทำงานทันที หลังเสร็จสิ้นภารกิจที่โรงพยาบาล



อย่างไรก็ตาม นิปปอนทีวี รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากทั้งในรัฐบาลและพรรคเสรีประชาธิปไตย ( แอลดีพี ) ว่าการเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเคโอของนายอาเบะ ไม่ใช่การตรวจสุขภาพธรรมดา แต่เป็นการรักษาโรคเรื้อรัง โดยยังไม่มีการให้ข้อมูลเพิ่มเติม



ทั้งนี้ การเดินทางมายังโรงพยาบาล 2 ครั้งใน 1 สัปดาห์ของนายอาเบะ อายุ 65 ปี  ทำให้เกิดความวิตกกังวลและการตั้งข้อสงสัยต่างๆ นานาอีกครั้งเกี่ยวกับสุขภาพของผู้นำญี่ปุ่น ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 ถือเป็นการอยู่ในวาระยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของญี่ปุ่น แต่นายอาเบะ ลาออกระหว่างอยู่ในตำแหน่งสมัยแรกเมื่อปี 2550 ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ



หากนายอาเบะ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ นายทาโร อาโสะ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงการคลัง จะรักษาการแทนจนกว่าจะถึงการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ตามกำหนด คือภายในเดือนต.ค. 2564 ขณะที่หากนายอาเบะ ลาออกจากตำแหน่งและไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งอีก นายอาเบะ จะยังคงรักษาการเองจนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งก่อนกำหนดครั้งใหม่ และรัฐสภารับรองผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯคนต่อไปซึ่งจะเป็นคนที่ 58




 

ข่าวทั้งหมด

X