ศาลพิเศษที่กรุงธากา บังคลาเทศ อ่านคำตัดสินประหารชีวิตนายซาอิด โมฮัมหมัด ไกเซอร์ อายุ 73 ปี ฐานเป็นอาชญากรสงคราม ในการทำสงครามปี 2514 ซึ่งเขาเข้าร่วมกับกองทัพปากีสถานในเวลานั้น โจมตีหมู่บ้านในเขตบราห์มันบาเรียใกล้ชายแดนอินเดีย ซึ่งศาลระบุว่าเป็นการกระทำความผิดฐานสังหารหมู่ ฆาตกรรม และ ข่มขืน อย่างไรก็ตามเขาเป็นผู้ถูกกล่าวหาคนที่ 15 แล้วที่ถูกตัดสินว่ากระทำความผิดจริงในคคีนี้ และอัยการเตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อไป โดยนายไกเซอร์ยืนยันปฏิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่อัยการอ้างว่ามีพลเรือนชาวฮินดูเสียชีวิตอย่างน้อย 108 ศพ บ้านเรือนถูกปล้นและวางเพลิง
ด้านพรรคการเมืองฝ่ายค้านระบุว่าการพิจารณาคดีนี้ มีแรงผลักดันจากการเมือง เนื่องจากนายไกเซอร์เป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรของบังคลาเทศ ส่วนกลุ่มสิทธิมนุษยชน ระบุว่า กระบวนการพิจารณาคดีไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานของระบบยุติธรรม แม้ว่าจะเป็นศาลที่นายกรัฐมนตรีเชค ฮาสินา ประกาศให้ตั้งขึ้นในปี 2553 เพื่อพิจารณาคดีการละเมิดที่เกิดขึ้นในช่วงครามประกาศเอกราช
สำหรับการทำสงครามเรียกร้องเอกราชบังคลาเทศเริ่มขึ้นในวันที่ 26 มีนาคม 2514 เมื่อปากีสถานตะวันออกประกาศตัวเป็นเอกราชภายใต้ชื่อสาธารณรัฐบังคลาเทศ และทำให้ปากีสถานตะวันตกส่งกองทัพเข้ามาปราบปราม แต่อินเดียให้การสนับสนุนปากีสถานตะวันออก ทำให้ในวันที่ 16 ธันวาคมของปีเดียวกัน ปากีสถานจึงยินยอมให้บังคลาเทศเป็นเอกราช ซึ่งจำนวนผู้เสียชีวิตจากการทำสงครามเพื่อเรียกร้องเอกราชในช่วงเวลา 9 เดือนก็ยังมีความแตกต่างกัน โดยทางการบังคลาเทศระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ล้านคน แต่นักวิจัยอิสระระบุว่ามีจำนวนน้อยกว่านั้น เพราะตัวเลขที่ทางการประกาศไว้ไม่มีหลักฐานยืนยัน
...F163..