สาธารณสุขจังหวัดเลย และชัยภูมิ สอบประวัติบุคคลใกล้ชิด ผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังการกักตัว

          กรณีหญิงไทยที่มีภูมิลำเนาอยู่ จ.เลย มีการตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในปริมาณต่ำ และอยู่ระหว่างรอผลการตรวจยืนยันอีกครั้ง ขณะนี้อยู่ระหว่างรักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ นพ.ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) เลย กล่าวว่า ไม่ว่าผลการตรวจยืนยันเชื้อครั้งที่ 2 ของผู้ติดเชื้อที่มีภูมิลำเนาและเดินทางกลับเข้ามาจ.เลย จะเป็นผลบวกคือติดเชื้อ หรือเป็นลบคือไม่ติดเชื้อ ทีมสอบสวนโรคระดับพื้นที่ของ จ.เลย ได้ลงไปสอบสวนโรคว่าผู้ป่วยรายนี้เดินทางมาอย่างไร และไปที่ไหนบ้าง รวมถึงมีการกักตัวกลุ่มเสี่ยงให้อยู่ในพื้นที่บ้านที่อยู่อาศัยที่เช่าอยู่ เพื่อกันคนเข้าออก

          จากการติดตามกลุ่มผู้สัมผัสบุคคลดังกล่าวและเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่ง ส่งตรวจหาเชื้อทางห้องแล็บแล้วมีจำนวน 17 คน คาดว่าจะทราบผลในวันพรุ่งนี้(21 ส.ค.) รวมถึงปิดล็อกพื้นที่เสี่ยงที่เป็นบ้านเช่า เพื่อป้องกันบุคคลเข้าออกแล้ว  สำหรับจ.เลย เคยรายงานผู้ติดเชื้อยืนยันเพียง 5 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด และไม่มีรายงานการพบผู้ติดเชื้อภายในจังหวัดมาเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว

          ด้าน นพ.วชิระ บถพิบูลย์ นพ.สสจ.ชัยภูมิ กล่าวถึงกรณีหญิงไทยวัย 34 ปี ตรวจพบเชื้อโควิด-19 ซึ่งกรมควบคุมโรคออกมายืนยันว่าเป็นซากเชื้อ ว่าเบื้องต้นได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว จากการตรวจสอบพบมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เป็นผู้สัมผัสที่อยู่ร่วมบ้านจำนวน 5 คน ได้แก่ มารดา น้องสาวซึ่งเป็นครู  มีบุตร 2 คน เป็นเพศชายอายุ 18 ปี และ 6 ขวบ และญาติเพศหญิงที่คอยขับรถพาไปรับลูกของผู้ป่วยที่ จ.หนองคาย

          นอกจากนี้ยังมีผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 12 คน แบ่งเป็น เป็นเพื่อนที่กลับจากดูไบ ซึ่งตรวจไม่พบเชื้อพร้อมครอบครัวเพื่อนรวม 3 คน  และเพื่อนบ้านที่กลับจากดูไบไปมาหาสู่กัน 5 คน และครอบครัวของญาติที่ขับรถรับส่งอีก 4 คน  สำหรับจังหวัดชัยภูมิเคยพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ทั้งสิ้น 3 คน โดยรายสุดท้ายนั้นหายป่วยเมื่อวันที่ 8 เม.ย.

          สำหรับในเวลา 18.00 น.นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค จะแถลงผลการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2