ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 12.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม 2563

รมว.สธ. ยืนยัน แม้ผู้ป่วยมีอาการน้อยก็มีสิทธิ์ใช้ยาฟาวิพิราเวียร์

         การเตรียมพร้อมรับสถานการณ์หลังพบผู้ป่วยหญิงสองคนติดเชื้อโรคโควิด-19 แม้ว่า 1 ใน 2 คนจะมีการระบุว่าเป็นเชื้อตาย อีกคนอยู่ระหว่างสอบสวนโรค และรอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ (แล็บ) อีกครั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เป็นสถานการณ์ที่คิดไว้อยู่แล้วจึงมีการเตรียมสถานการณ์รองรับ ยึดมั่นหลักการเดิมคือ ตรวจเร็ว คุมเร็ว รักษาเร็ว หากพบการติดเชื้อ เจ้าหน้าที่จะรีบเข้าไปตีวงตรวจเชื้อ และควบคุมโรค จำกัดวงการระบาดทันที กระทรวงสาธารณสุข สำรองยา เวชภัณฑ์ เครื่องช่วยหายใจ รวมถึงเตียง ส่วนการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ จะไม่รอใช้กับผู้ป่วยอาการหนักแต่จะใช้ทันทีเมื่อเห็นสมควร อาจมีอาการเล็กน้อยก็มีสิทธิ์ได้ใช้ยาแล้วเพราะเตรียมพร้อมไว้ทุกทาง ขอให้ประชาชนคลายความกังวล และขอให้คนไทยรักษาวินัยต่อไป

ศบค.ชุดเล็ก ผ่อนคลายการแข่งกีฬาแบบมีคนดู-การจัดคอนเสิร์ต

          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(ศบค.) ชุดเล็ก หารือหลายเรื่อง

-การขยายพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน(พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ออกไปอีก 1 เดือนจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศบค. ยืนยันว่า ยังมีความจำเป็นที่ต้องขยายระยะเวลาบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ในการป้องกันโควิด-19 ต่อไปเพราะเป็นกฎหมายตัวเดียวที่รวมหลายหน่วยงานไว้ โดยขออดทนอีก 1 เดือน

-การประเมินผลหลังผ่อนคลายมาตรการให้เปิดการทดลองเรียนเต็มรูป

-การอนุญาตให้มีผู้เข้าชมการแข่งขันกีฬาได้ตามที่กำหนด หรือ คอนเสิร์ต ตามขนาดพื้นที่ เป็นต้น 

ผู้นำฝรั่งเศส ส่งสัญญาณไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ครั้งที่สอง

          ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวถึงการติดเชื้อโควิด-19 ในฝรั่งเศสที่กลับมาเพิ่มขึ้นอีก โดยพบว่าในรอบ 24 ชั่วโมง มีผู้ป่วยรายใหม่ 3,776 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุดครั้งใหม่นับตั้งแต่เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ระยะแรก เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ประธานาธิบดีฝรั่งเศสหวังที่จะเห็นแผนยุทธศาสตร์ระดับท้องถิ่นมากกว่าระดับชาติ ส่งสัญญาณว่าจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดทั่วประเทศเป็นครั้งที่สอง

          ส่วนกระทรวงแรงงานมีคำสั่งให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าภายในสถานที่ทำงานไม่ว่าในร่มหรือกลางแจ้งที่ต้องปฏิบัติตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ และเป็นความรับผิดชอบของนายจ้างในการต้องจัดหาหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าให้เพียงพอ

เกาหลีใต้ อาจเพิ่มระดับคุมเชื้อเป็นระดับ 3 ปิดโรงเรียน-ทำงานที่บ้าน

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี ( เคซีดีซี ) รายงานว่าในรอบ 24 ชั่วโมง

-ผู้เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมเป็นอย่างน้อย 307 ราย

-ผู้ป่วยรายใหม่ 288 คน แบ่งเป็น 276 คนได้รับเชื้อจากภายในประเทศส่วนใหญ่อยู่ในกรุงโซล และกระจายกันไปตามเมืองต่างๆทั่วประเทศ มีเพียง 12 คนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ  

          จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมของคลัสเตอร์ใหญ่ที่สุดตอนนี้ คือโบสถ์ซารัง เจอิล ทางเหนือของกรุงโซล มีการยืนยันผู้ป่วยเชื่อมโยงโดยตรง 166 คน เพิ่มสถิติสะสมเป็นอย่างน้อย 623 คนแล้ว นอกจากนี้ โบสถ์แห่งนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับคลัสเตอร์อีกอย่างน้อย 114 แห่ง

          รายงานระบุว่า หากแนวโน้มการพบผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งแบบนี้ต่อไปในเร็ววันนี้อาจมีการยกระดับมาตรการทางสังคมเป็นระดับ 3 ซึ่งเป็นขั้นสูงสุด คือ การกลับมาปิดโรงเรียน การทำงานจากที่บ้านให้มากที่สุด และจำกัดการรวมกลุ่มนอกเคหสถานให้ไม่เกิน 10 คน