แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เจอคลื่นความร้อน ที่ เดท แวลลีย์ อุณหภูมิพุ่ง 54 องศา
คลื่นความร้อนสูงเกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ในเดท แวลลีย์ (Death Valley) หรือหุบเขามรณะ แตะไป 54 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนในรัฐแคลิฟอร์เนีย เกือบ 42 ล้านคน ได้รับความยากลำบาก และมีคำเตือนว่ารัฐแคลิฟอร์เนียจะมีสภาพอากาศร้อนจัดจนถึงวันศุกร์นี้ และบางส่วนของรัฐ มีอุณหภูมิพุ่งสูงเกิน 37 องศาเซลเซียส
นักอุตุนิยมวิทยาประจำสำนักงานบริการสภาพอากาศสหรัฐฯ (National Weather Service)ประจำเบย์แอร์เรีย ซานฟรานซิสโก ไบรอัน การ์เซีย แสดงความเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเรื่องสภาพอากาศร้อนจัดของรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีฝนตกฟ้าคะนองทำให้ได้เห็นปรากฎการณ์ฟ้าผ่าจำนวนมากเกิดขึ้นที่เมืองซานฟรานซิสโก รวมไปถึงไฟป่าทั่วทั้งรัฐ คลื่นความร้อนเกิดขึ้นเวลานี้มาจากการที่รัฐแคลิฟอร์เนียมีลักษณะเป็นเหมือนหม้อแรงดันในพื้นที่ซึ่งมีสภาพกดอากาศสูงครอบคลุมบางส่วนของเขตตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐยูทาห์และถูกกดให้ต่ำในพื้นที่ส่วนใหญ่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งปี 2020 จะกลายเป็นปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่รัฐแคลิฟอร์เนียเคยเห็นมา
วิจารณ์หนัก!คลิปตร.เยอรมัน ใช้เข่ากดคอชายวัยรุ่น
หลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เข่ากดคอชายคนหนึ่งในเมืองดุสเซลดอร์ฟ เยอรมนี ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ไปถึงเหตุการณ์ของการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีชาวอเมริกัน จนทำให้เสียชีวิตและเกิดการชุมนุมประท้วงทั่งสหรัฐฯเรื่องการต่อต้านการเหยียดผิว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากคลิปพบว่า มีตำรวจอย่างน้อย 3 คน อยู่ในจุดเกิดเหตุ ตำรวจ 1 คนใช้เข่ากดคอชายวัยรุ่นในขณะที่เข้าไปควบคุมตัว ตำรวจในเมืองดุสเซลดอร์ฟ ออกแถลงการณ์ว่า เยาวชนในคลิปได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ก่อน ขณะเข้าไปควบคุมกลุ่มฮูลิแกนในร้านอาหาร ตำรวจจึงจำเป็นต้องจับกุมเพื่อที่จะระบุตัวตน ก่อนที่จะส่งตัวให้ผู้ปกครองต่อไป ยืนยันว่า การปฎิบัติหน้าที่ดังกล่าวเพื่อความสงบเรียบร้อย
ไทย ติดอันดับ 1 ใน 5 ปลอดภัยที่สุดในการท่องเที่ยวในช่วงโควิด-19
Tourlane.de เว็บไซต์ท่องเที่ยวเยอรมนี จัดอันดับประเทศปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยวช่วงการระบาดของโควิด-19 เป็นการรวบรวมข้อมูลเมื่อวันที่ 26 ก.ค.เนื่องจากเยอรมนี ได้เปิดประเทศอีกครั้ง เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.จึงมีการจัดอันดับสำหรับชาวเยอรมันที่ต้องการไปท่องเที่ยวต่างประเทศ พบว่า หลายประเทศก็ได้เริ่มเปิดรองรับการท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งการจะเดินทางนั้นความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญ เว็บไซต์ดังกล่าวได้จัดอันดับประเทศจุดหมายปลายทางที่ปลอดภัยสำหรับการท่องเที่ยวช่วงโควิด-19 ระบาด ซึ่ง 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ไทย 2. จอร์แดน 3. เฟรนช์โพลินีเชีย 4. ไอซ์แลนด์ 5. โมร็อกโก
สำหรับประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุดในช่วงโควิด-19 มีอัตราการรายงานผู้ป่วยโคโรนาต่ำมาก มีการดูแลทางการแพทย์ที่ดีมาก มีความหนาแน่นของประชากรในระดับปานกลาง สภาพอากาศที่ปลอดโปร่ง เป็นต้น การจัดอันดับนี้วิเคราะห์จากหลายปัจจัย เช่น สถานการณ์การระบาดในประเทศ กฎอนามัยระหว่างประเทศ ความหนาแน่นของประชากร ระยะเวลาสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง เที่ยวบินจากเยอรมนี เป็นต้น
ครม.ต่อเวลาจ่ายเงินเยียวยาโควิด-19 เกษตรกร ถึง 30 ก.ย.
คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบขยายเวลาโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิค-19 โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขยายระยะเวลาการติดตามเกษตรกรที่ยังไม่มาแจ้งเลขที่บัญชีรับโอน จำนวนไม่เกิน 115,892 ราย ออกไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.2563 โดยให้จ่ายเงินงวดเดียว จำนวน 15,000 บาทต่อราย และหากพ้นกำหนด ให้ยุติการติดตามและการโอนเงิน พร้อมทั้งให้จ่ายเงินให้แก่เกษตรกรที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้อย่างสมบูรณ์ในวันที่ 15 พ.ค.2563 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตรวจสอบรับรองสิทธิ์อย่างสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว จำนวนไม่เกิน 38,737 ราย โดยจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรกลุ่มดังกล่าวงวดเดียว จำนวน 15,000 บาทต่อราย ภายในวันที่ 15 ก.ย.2563
ทั้งนี้ยังให้จ่ายเงินให้กรณีเกษตรกรที่ไม่ได้สิทธิ์รับเงินช่วยเหลือภายใต้โครงการ เนื่องจากในช่วงแรกมีความซ้ำซ้อนกับสิทธิ์โครงการเราไม่ทิ้งกัน แต่ต่อมาได้สละสิทธิ์โครงการเราไม่ทิ้งกันแล้ว และกรณีหน่วยงานรับขึ้นทะเบียนขอส่งข้อมูลเกษตรกรตกหล่นจำนวนไม่เกิน 759 ราย ให้จ่ายงวดเดียว จำนวน 15,000 บาทต่อราย ภายในวันที่ 15 ก.ย.2563 และให้ขยายระยะเวลาการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรที่มาอุทธรณ์และผ่านการพิจารณาแล้ว แต่ไม่สามารถจ่ายเงินช่วยเหลือฯ ได้ทันในวันที่ 31 ก.ค.2563 ไม่เกิน 269 ราย โดยจ่ายงวดเดียวจำนวน 15,000 บาทต่อรายภายในวันที่ 15 ก.ย.2560
รัฐบาล ทบทวนปรับมาตรการช่วยเอสเอ็มอีล็อตใหญ่
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบให้ทบทวนมติครม.และมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี โดยมีมาตรการสำคัญ คือ ปรับปรุงโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ของธนาคารออมสินที่มีวงเงินเหลืออยู่อีกจำนวน 18,988 ล้านบาท โดยขยายให้ครอบคลุมประชาชนทุกอาชีพ พร้อมปรับปรุงแนวทางช่วยเหลือด้านการเงินเอสเอ็มอีอย่างทั่วถึง โดยจัดสรรวงเงิน 10,000 ล้านบาทให้เอสเอ็มอีธุรกิจท่องเที่ยวและที่เกี่ยวเนื่อง พร้อมทั้งขยายขอบเขตคุณสมบัติของเอสเอ็มอีให้ครอบคลุมถึงเอสเอ็มอีทั่วไป และแบ่งวงเงินจำนวน 3,000 ล้านบาทให้ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีโดยตรง และปรับวงเงินค้ำประกันต่อรายจากเดิมไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อรายรวมทุกสถาบันการเงิน เป็นไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อรายรวมทุกสถาบันการเงิน เพื่อให้รองรับลูกค้าได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังขยายกลุ่มเป้าหมายโครงการสินเชื่อของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ที่อนุมัติสินเชื่อไปแล้วจำนวน 417 ล้านบาท คงเหลืออีก 9,583 ล้านบาท ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มนอกจากท่องเที่ยว และเห็นชอบโครงการค้ำประกันสินเชื่อพีจีเอส ระยะพิเศษ หรือซอฟท์โลน พลัส โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จะค้ำประกันสินเชื่อวงเงินโครงการรวม 57,000 ล้านบาท ระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 8 ปี
รวบ 11 นักพนัน ล้อมวงเล่นไพ่ ที่นครศรีธรรมราช ผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช หรือชุด ฉก.ของผู้ว่าฯ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับข้อมูลว่าที่เพิงพักไม่มีเลขที่ หมู่ 4 ต.ท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช มีการลักลอบเปิดเล่นการพนันเล่นไพ่ มีนักพนันจำนวนมาก เป็นการฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน( พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) เกรงว่าจะทำให้เกิดการระบาดโรคโควิด-19 จึงนำกำลัง จนท.อส.ฝ่ายปกครองชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับ อส.ฝ่ายปกครองอำเภอทุ่งใหญ่ ไปตรวจสอบ พบว่า ด้านหน้าเพิงที่พักมีการขึงผ้าบังไว้ด้านหน้า ส่วนด้านในเพิงมีการลักลอบเล่นการพนันกันอย่างสนุกสนาน กำลังเจ้าหน้าที่ อส.จึงกระจายกำลังเข้าปิดล้อมทำการจับกุมนักพนันทั้งหมดที่อยู่ด้านในจับกุมนักพนันชายหญิง 11 คน ทุกคนไม่มีอาการตกใจ ไม่มีใครวิ่งหลบหนีแม้แต่คนเดียว พร้อมของกลางไพ่อุปกรณ์การเล่น ไปลงบันทึกจับกุมที่อำเภอทุ่งใหญ่ มีนายวัชรินทร์ ศรีพิณ อายุ 44 ปี รับเป็นเจ้าบ้าน จัดให้มีการเล่นการพนันดังกล่าว ก่อนคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งใหญ่ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันเล่นการพนัน พนันเอาทรัพย์สินกันโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันทำการชุมนุมทำกิจกรรมมั่วสุม อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยเสี่ยงต่อการระบาดของโรคที่เป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548