*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา08.30น.*

24 ธันวาคม 2557, 08:57น.


+++ผลการประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงในคดีการจัดซื้อจัดจ้างสนามฟุตซอลนัดแรก นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวว่า ที่ประชุมมีนายประสาท พงษ์ศิวาภัยและนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะอนุกรรมการไต่สวน พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้องจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และหน่วยงานอื่นๆ หารือเพื่อเป็นการวางกรอบการทำงานในการไต่สวนข้อเท็จจริง รวมถึงมอบหมายส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อไปหาพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม คาดว่า จะทำให้การไต่สวนมีความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จากเดิมเมื่อ ป.ป.ช. รับคดีเอาไว้ไต่สวนมักใช้เวลานานกว่าจะสามารถชี้มูลได้ เช่น จ.นครราชสีมา มีโรงเรียนกว่า 50 แห่งที่ถูกกล่าวหา หาก ป.ป.ช.ต้องไปตรวจสอบทุกโรงเรียนคงใช้เวลามาก คาดว่าน่าจะรู้ผลความคืบหน้าคดีและสรุปภายในปีหน้า ซึ่งจะรวดเร็วกว่าคดีที่ผ่านมาของ ป.ป.ช. เนื่องจากทำงานแบบบูรณาการที่ประกอบด้วยหลายหน่วยงาน  รายงานข่าวแจ้งว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนได้แบ่งคณะทำงานออกไต่สวนเป็น 3 พื้นที่ ได้แก่ จ.นครราชสีมา จ.มุกดาหารและ จ.อำนาจเจริญ โดยใช้ข้อมูลที่ สตง.กับ ป.ป.ท.ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้นมาแล้วเป็นหลัก ดังนั้น การไต่สวนและสรุปเรื่องนี้จะใช้เวลาไม่นาน เบื้องต้นให้เวลา 3 เดือน และสรุปรายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ทราบ



+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อม ผบ.เหล่าทัพ เดินทางไปประชุม GBC ที่ ประเทศกัมพูชา



+++หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยว่า กรมฯ มอบหมายให้เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลว่าจะมีผลต่อเป้าการส่งออกสินค้าไทยอย่างไร ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ เนื่องจากประเมินว่าประเทศที่เป็นผู้ส่งออกน้ำมันจะได้รับผลกระทบจนทำให้กำลังซื้อลดลง เช่น ตลาดรัสเซีย ตะวันออกกลาง เวเนซุเอลา ลาตินอเมริกา เป็นต้น ซึ่งในต้นปีหน้าคงต้องมีการปรับแผนการส่งออกในการรับมือกับสถานการณ์  กรมฯ จะนัดหารือกับภาคเอกชน ทั้งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) อีกครั้งในต้นปี 2558 เพื่อประเมินแนวโน้มการส่งออกว่าจะมีทิศทางใด เพราะปีหน้า มีปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบกับการส่งออกมาก ทั้งราคาน้ำมัน ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ตกต่ำ รวมถึงเศรษฐกิจของคู่ค้าหลาย ๆ ประเทศยังไม่ฟื้นตัวดี เช่น ยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งต้องมีการวางแผนร่วมกันว่าจะทำการบุกเจาะตลาดส่งออกอย่างไร  อย่างตลาดรัสเซีย แม้จะมีข้อจำกัด ที่ประเทศได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันลดลง ทำให้กำลังซื้อลดลง แต่ก็มีโอกาส เพราะตอนนี้รัสเซียมีปัญหากับสหรัฐฯ  และยุโรป มีการห้ามนำเข้า จึงเป็นโอกาสของไทยในการส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและปศุสัตว์ ซึ่งกรมฯ ได้เชิญให้รัสเซียมาเลือกซื้อสินค้าไทยแล้ว คาดว่าจะมีโอกาสส่งออกให้มากขึ้น โดยผู้ส่งออกต้องติดตามเรื่องค่าเงินรัสเซียที่ตกไปมาก แม้รัสเซียจะนำเข้าเท่าเดิม แต่จะรู้สึกว่าของแพงขึ้น ซึ่งไทยต้องวางแผนให้ดี



+++ สำหรับตลาดส่งออกปีหน้า กรมฯ ยังคงให้ความสำคัญกับตลาดอาเซียน เพราะเป็นตลาดหลักที่สามารถเพิ่มยอดการส่งออกได้อีกมาก เช่น เมียนมาร์ มีโอกาสเข้าไปลงทุนทั้งประมง โรงแรม สิ่งทอ โดยเฉพาะเมืองมะริด มีทรัพยากรสมบูรณ์ทั้งอาหารทะเล ไม้ แร่ธาตุ เช่นเดียวกับตลาดจีน อย่างต่อเนื่อง และถือเป็นตลาดหลักของไทย



+++แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แนวโน้มจีดีพี ปี 2558 คาดว่าจะขยายตัวได้ที่ระดับ ร้อยละ4.1 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ ร้อยละ 3.6-4.6 ซึ่งเป็นผลมาจากใช้จ่ายภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวได้สูง โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านคมนาคมขนส่งและเศรษฐกิจต่างประเทศ คาดว่าจะขยายตัวได้ดีขึ้น รวมทั้ง จำนวนนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นภายหลังจากสถาน การณ์การเมืองภายในประเทศคลี่คลายลงส่วนอุปสงค์ภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นด้วยเช่นกัน



+++ตัวเลขการส่งออก ปี 2558 คาดว่าจะกลับมาเติบโตในอัตราเร่งขึ้น ที่ระดับร้อยละ 6.5 เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดโลกฟื้นตัวขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าโดยเฉพาะสหรัฐฯ การส่งออกบริการมีแนวโน้มดีขึ้นตามรายรับจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นขึ้นและการนำเข้า คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 9.6 สอดคล้องกับแนวโน้มการใช้จ่ายภาคเอกชนที่เร่งตัวขึ้น



+++ ด้านนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.คาดว่าจีดีพี ปีนี้ จะเติบโตได้ต่ำกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ จากช่วงร้อยละ 1.2-1.7 หรือค่ากลางเฉลี่ยที่ร้อยละ 1.4 เนื่องจากผลกระทบในเรื่องของราคาน้ำมัน การส่งออกที่ยังไม่ฟื้นตัวโดยเฉพาะการเบิกจ่ายภาครัฐในส่วนงบลงทุนค้างท่อปี 2548-2557 และงบประมาณโครงการไทยเข้มแข็ง รวมกว่า 30,000 ล้านบาท ที่เบิกจ่ายได้น้อยกว่าที่คาดไว้ อย่างไรก็ดี ในส่วนของภาคการนำเข้าที่ไม่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้จีดีพีไม่ชะลอลงไปมาก แต่ก็ไม่เป็นผลดีต่อภาคการลงทุนในระยะ ต่อไป



+++นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง มอบนโยบายให้กรมบัญชีกลาง เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและงบค้างท่อ



+++การประชุมคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีนายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานกรรมการ เป็นประธานพิจารณา พ.ร.บ.สลากฉบับใหม่ ก่อนเสนอให้กระทรวงการคลังเห็นชอบ หลักเกณฑ์ พ.ร.บ.สลาก ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าจะต้องเพิ่มผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ทั้งหวยออนไลน์ หวยบนดิน  ซึ่งจะทำให้เป็นการเพิ่มสินค้าในตลาด เพื่อให้ราคาขายลดลง และเป็นการแก้ไขปัญหาการขายเกินราคาได้ในระยะยาว  มีแนวคิดจัดตั้งกองทุนเพื่อรับซื้อสลาก ที่เป็นสลากเลขไม่สวย เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ค้าสลากมักอ้างว่าสาเหตุที่ต้องขายสลากเกินราคา เพื่อมาชดเชยสลากเลขไม่สวย เช่น เลข 00 หรือเลขที่ออกรางวัลไปแล้ว



+++ หลังจากเช้านี้ ปตท. และบริษัท บางจากปิโตรเลียม ได้ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 95 แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ อี20 ลงลิตรละ 30 สต. มีผลตั้งแต่ เวลา 05.00 น. มีรายงานจากกระทรวงพลังงานระบุว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) เห็นชอบลดค่าเอฟทีรอบเดือน ม.ค. เม.ย. 2558 ลง 5-10 สต./หน่วย ตามต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลง โดยจะเสนอคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานพิจารณาวันที่ 25 ธ.ค.นี้          ปัจจุบันค่าเอฟทีมีอัตรา 69 สต./หน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐาน 3.27 บาท/หน่วย ทำให้อัตราค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บจากประชาชนอยู่ที่ 3.96 บาท/หน่วย



+++ธนาคารกสิกรไทย แถลงผลประกอบการปี 2557 และแนวทางดำเนินธุรกิจปี 2558



+++นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข เปิดงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 7 ภายใต้หัวข้อ เดินหน้าสมานฉันท์ ร่วมกันปฏิรูป สังคมสุขภาวะ ที่ศูนย์การประชุม อิมแพค เมืองทองธานี ถือเป็นการรวมตัวของภาคประชาชนครั้งใหญ่ เพื่อแลกเปลี่ยนประเด็นการปฏิรูปด้านต่างๆ



+++นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ร่วมกับคณะที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตรวจการจัดระเบียบทางเท้าในพื้นที่เขตดุสิต ณ ศูนย์บริการสาธารณสุข6 ถ.พิษณุโลก ซอย1 เขตดุสิต หลังจากเมื่อวานนี้  กทม.ยืดระยะเวลาให้ผู้ค้าคลองถมต่อไปจนถึงต้นเดือนมีนาคม 2558 แต่ในช่วงระยะเวลาที่ผ่อนผัน ผู้ค้าจะต้องอยู่ในกรอบการจัดระเบียบ โดยจะต้องไม่สร้างผลกระทบโดยรวม จากนั้นจะอนุญาตให้ขายต่อที่เดิม หรือจะจัดหาสถานที่ใหม่ให้ จะต้องหารือกันอีกครั้ง



+++เย็นนี้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง( สตม.) ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม จับมือภาครัฐและเอกชน สร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้กับคนไทย และชาวต่างชาติ รองรับเทศกาลคริสมาสต์ และวันขึ้นปีใหม่ปี 2558 ถ.ข้าวสาร



+++นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกฮอลล์แห่งชาติ ครั้งที่1 หลังจากที่เมื่อวานนี้ ตัวแทนจากหลายฝ่าย ทั้งเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ (ครปอ.) แกนนำเครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์กรุงเทพฯ เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น ยื่นหนังสือถึงนายยงยุทธ เร่งรัดให้ติดตามความคืบหน้ากฎหมายห้ามขาย-ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถไฟและบริเวณสถานีรถไฟ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่เพื่อรับมืออุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่นี้



 +++วันนี้ พ.ร.บ.เวนคืนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทางพิเศษสายเชื่อมระหว่างถนนวงแหวนอุตสาหกรรมกับทางพิเศษสายบางพลี-สุขสวัสดิ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จะมีผลบังคับใช้เป็นวันแรก โดยให้ดำเนินการภายใน 4 ปี โดยขณะนี้เจ้าของที่ดินส่วนใหญ่ได้ตกลงขายที่ดินและยินยอมรับราคาค่าทดแทน แต่มีเจ้าของที่ดิน 26 แปลง ที่ไม่ยินยอมรับราคาค่าทดแทน จึงจะมีการกำหนดให้มีการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวต่อไป



 



 

ข่าวทั้งหมด

X