คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา โดยมีนายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการฯเข้าร่วมประชุมตลอดทั้งวัน ในช่วงเช้าคณะทำงานตรวจสอบตำรวจได้เชิญ พ.ต.อ. ธนสิทธิ์ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง(พฐ.) เข้าให้ข้อมูลที่เป็นข้อมูลที่มีพยานให้น้ำหนักทำให้ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ไม่สั่งฟ้องในคดีนี้
หลังการสอบข้อเท็จจริง นายวิชา ยืนยันว่า คดีนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ไม่ใช่แค่คดีรถชนกันตาย แต่จริงๆ แล้วไม่ปกติ สมแล้วที่นายกรัฐมนตรีจะต้องตั้งคณะกรรมการฯเข้ามาตรวจสอบโดยเฉพาะ การสอบสวนครั้งนี้ไม่ได้ช่วยเหลือใคร มิเช่นนั้น ส่วนตัวจะออกมาเปิดเผยข้อมูลพิรุธและบอกว่ามันผิดปกติทำไม มีหรือไม่ ที่บอกว่าไม่มีผิดปกติเลย
นอกจากนั้น จะเชิญ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังพบว่า มีความเกี่ยวโยงในคดีนี้มาให้ข้อเท็จจริง พร้อมกับนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ในวันที่ 20 สิงหาคม ในเวลา 13.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนพล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง ที่ถูกกล่าวอ้าง ยังไม่เชิญมาชี้แจง เพราะวันนี้ทราบข้อมูลว่าในคดีนี้ใช้เพียงห้องทำงานของพล.ต.อ.มนู
ขณะเดียวกัน คณะทำงานตรวจสอบตำรวจจะเชิญผู้บังคับการกองต่างประเทศ ที่รับผิดชอบการออกหมายแดง หรืออินเตอร์โพล และการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ,ผู้กำกับการ สภ.เมืองเชียงใหม่ เข้าให้ข้อมูลประเด็นการเสียชีวิตของนายจารุชาติ มาดทอง พยานสำคัญคดีของนายวรยุทธ มาให้ข้อมูลต่อคณะทำงานในวันที่ 20 สิงหาคม เช่นกัน
สำหรับการชี้แจงของ พ.ต.อ. ธนสิทธิ์ในวันนี้เป็นประเด็นการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถจาก 177 กม./ชม. เป็น 79 กม./ชม. ซึ่งพ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ยืนยันว่าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเพียงครั้งเดียว คือ ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 ดังนั้นการถูกกล่าวอ้างว่า เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าพนักงานสอบสวนในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2559 นั้นไม่เป็นความจริง และไม่ทราบว่า นายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์ประจำและหัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เข้ามาเป็นพยานได้อย่างไร ทราบเพียงว่า เป็นผู้ทำข้อมูลในคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน ทำให้เชื่อถือในด้านข้อมูล แต่เมื่อกลับมาทบทวนและเชื่อว่าไม่ถูกต้องจึงพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงข้อมูลความเร็วอยู่ที่ 177 กม./ชม. แต่พ.ต.อ. วิรดล ทับทิมดี อดีตผู้กำกับฝ่ายสอบสวน สน.ทองหล่อเจ้าของคดีอ้างว่าทำคดีอื่นทับซ้อนทำให้เกิดความสับสนจึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ยอมรับว่ากังวลเรื่องของความปลอดภัยเพราะกำลังถูกกดดันอย่างหนัก โดยอ้างว่ามีบุคคลติดตามตนเองอยู่ ซึ่งไม่ได้ตอบตรงๆว่าเป็นใคร บอกเพียงว่าเป็นบุคคลที่พานายสายประสิทธิ์ มาเป็นพยาน ในจุดนี้ได้มีการประสานงานไปยังกระทรวงยุติธรรมเพื่อส่งคนเข้าไปคุ้มครองแล้ว
สำหรับในช่วงบ่ายวันนี้ เป็นการเข้าให้ข้อเท็จจริง ของพล.ต.ท. เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายวิชา เปิดเผยว่า พล.ต.ท. เพิ่มพูน ชี้แจงเรื่องการมอบอำนาจว่าเป็นไปตามระบบซึ่งถือว่าคำสั่งเป็นอันเด็ดขาด และที่ไม่เห็นแย้งอัยการเพราะไม่มีข้อมูลใดผิดปกติ แต่ยอมรับว่า เพิ่งทราบว่ามีการกดดัน พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ เมื่อวานนี้(17 ส.ค.) จากข่าว หากรู้ก่อนหน้านี้ว่ามีการกดดันและทำสำนวนอันเป็นเท็จ จะไม่ยอม ซึ่งจุดนี้เป็นเรื่องที่คณะกรรมการฯ จะต้องนำไปพิจารณากระบวนการทำงานของตำรวจต่อไป