ราคายางทะลุ 50 บาทต่อกิโลกรัม เตรียมสร้างอาณาจักรยางพารา ที่จ.นครศรีธรรมราช

                 นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ราคายางปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ปิดตลาดวานนี้ (17 ส.ค.) สูงสุด 50.25 บาทต่อกิโลกรัม หลังจากอยู่ในช่วงกิโลกรัมละ 40 บาทเศษมาเป็นเวลานาน จากปัจจัยเพราะความต้องการมีมากกว่าผลผลิตที่มีไม่เพียงพอ เช่น ธุรกิจยางล้อรถในประเทศจีนกลับมาเปิดเต็มกำลัง100% และการผลิตถุงมือยางทำให้มีความต้องการใช้น้ำยางข้นเพิ่มขึ้นอีก ที่สำคัญนโยบายรัฐบาลเพิ่มการใช้ยางในประเทศ ตอนนี้ก็เริ่มเดินหน้าโครงการแล้ว โปรเจ็กต์ “แบริเออร์-เสาหลักนำทางยางพารา” ของกระทรวงคมนาคม ในสัปดาห์หน้า ครม.สัญจร จะลงพื้นที่ไปภาคตะวันออก ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ในส่วนของสหกรณ์ที่ดำเนินโครงการนี้ด้วย รวมหลังคนไทยเริ่มกลับมาใช้รถส่วนตัวมากขึ้น หลังวิตกต่อการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

          ขณะเดียวกัน ได้เร่งผลักดันให้เกิดการพัฒนางานวิจัย คิดค้นนวัตกรรมในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ยางพารา โดยมุ่งเน้นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ดำเนินตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้านระบบตลาดนำการผลิต เพิ่มช่องทางการขาย ลดต้นทุนการผลิต

          นอกจากนี้ กยท.ยังให้ความสำคัญด้านการวิจัย โดยสนับสนุนการศึกษาวิจัยด้านยางพารา ด้วยการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนายางพาราร้อยละ 5 ของทุกปี สำหรับใช้ศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์ และทดลองเกี่ยวกับยางอย่างมีระบบ และร่วมสนับสนุนทุนวิจัยกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในและนอกประเทศ เพื่อสร้างบุคลากร ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ยาง รวมถึงการจัดสวัสดิการเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง ได้มีโครงการทุนการศึกษาระดับปริญญาตรีสำหรับบุตรเกษตรกรชาวสวนยางด้วย

          ที่สำคัญจะสร้างอาณาจักรยางพาราทั้งระบบครบวงจรเรียกว่า “รับเบอร์ แวลเลย์” จ.นครศรีธรรมราช โดยใช้พื้นที่ของ กยท. 41,000 ไร่ ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่  เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพชาวสวนยาง มีตลาดกลางยางพาราในการประมูลซื้อขายยางพาราอยู่ในพื้นที่ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางการค้าที่สำคัญของภาคใต้ เป็นแหล่งที่ตั้งของโรงงานผลิตภัณฑ์ยางชั้นนำของภูมิภาค ซึ่งเหมาะสมส่งเสริมให้เป็นแหล่งธุรกิจยางพาราภูมิภาคอาเซียน